
สหรัฐฯ เกิดเหตุกราดยิงอีกครั้ง บริเวณมหาวิทยาลัยเอโมรีในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า เป้าหมายที่แท้จริง คือ CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ และเหตุจูงใจอาจมาจากเรื่องวัคซีนโควิด-19 ล่าสุดมีรายงานตำรวจเสียชีวิต 1 ราย และมือปืนผู้ก่อเหตุเสียชีวิตอีก 1 ราย
เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตดีคาลบ์เคาน์ตี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มลง เขาถูกนำตัวออกจากที่เกิดเหตุทันทีและนำตัวส่งโรงพยาบาลเกรดี เมโมเรียล เจ้าหน้าที่ยังคงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นภายในร้านขายยาซีวีเอส ซึ่งอยู่ตรงสี่แยกพอดี ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงรีบเร่งค้นหาคนร้ายและระงับเหตุที่เป็นภัยคุกคามต่อชุมชนทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่พบคนร้ายอยู่ที่ชั้นสองของซีวีเอส เขาถูกยิง เรายังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ยิงมาจากที่ใด หรือเป็นการฆ่าตัวตายเอง
ขณะที่พนักงานที่ทำงานในร้านใกล้ๆ ได้ยินเสียงปืนและล็อกตัวเองอยู่ในร้าน และระบุว่า “มันฟังดูเหมือนเสียงดอกไม้ไฟที่ดังขึ้นต่อเนื่องกัน”
สรุปข่าว
สหรัฐฯ เกิดเหตุกราดยิงอีกครั้ง บริเวณมหาวิทยาลัยเอโมรีในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า เป้าหมายที่แท้จริง คือ CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ และเหตุจูงใจอาจมาจากเรื่องวัคซีนโควิด-19 ล่าสุดมีรายงานตำรวจเสียชีวิต 1 ราย และมือปืนผู้ก่อเหตุเสียชีวิตอีก 1 ราย
เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตดีคาลบ์เคาน์ตี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มลง เขาถูกนำตัวออกจากที่เกิดเหตุทันทีและนำตัวส่งโรงพยาบาลเกรดี เมโมเรียล เจ้าหน้าที่ยังคงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นภายในร้านขายยาซีวีเอส ซึ่งอยู่ตรงสี่แยกพอดี ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงรีบเร่งค้นหาคนร้ายและระงับเหตุที่เป็นภัยคุกคามต่อชุมชนทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่พบคนร้ายอยู่ที่ชั้นสองของซีวีเอส เขาถูกยิง เรายังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ยิงมาจากที่ใด หรือเป็นการฆ่าตัวตายเอง
ขณะที่พนักงานที่ทำงานในร้านใกล้ๆ ได้ยินเสียงปืนและล็อกตัวเองอยู่ในร้าน และระบุว่า “มันฟังดูเหมือนเสียงดอกไม้ไฟที่ดังขึ้นต่อเนื่องกัน”
จากข้อมูลล่าสุดที่ทาง CNN รายงาน ระบุว่า มือปืนผู้ก่อเหตุมีคนเดียว เป็นชายผิวขาว และตอนนี้เสียชีวิตแล้ว ผู้ก่อเหตุมีปืนหลายกระบอก ปืนพก 2 กระบอก ปืนไรเฟิล 1 กระบอก และปืนลูกซอง 1 กระบอก ใส่หน้ากากอนามัย
ก่อนหน้านี้พ่อของมือปืนได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนเกิดเหตุยิง เพราะเขาเชื่อว่าลูกชายของเขาคิดฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าระยะห่างระหว่างเวลาโทรและตอนเกิดเหตุยิงนั้นผ่านไปนานเท่าใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยกับ CNN ว่าตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนภายใต้ทฤษฎีที่เชื่อว่า มือปืนผู้ก่อเหตุป่วย หรือไม่ก็เชื่อว่าตัวเองป่วย และโทษว่าวัคซีนโควิด-19 เป็นสาเหตุของโรคที่เขาป่วย ส่วนพนักงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเอโมรี ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า เห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยงานและยิงใส่อาคาร
สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนต่อไป
- สหรัฐฯ ยืนหนึ่ง ส่งออกอาวุธมากที่สุดในโลก
- ภาษีทรัมป์เริ่มบังคับใช้ในหลายประเทศ ทรัมป์คุยเงินมหาศาลเข้าสหรัฐฯ ในไม่กี่ชั่วโมง
- ทรัมป์จ้องจะยึดกรุง วอชิงตันดี.ซี. อ้างเมืองหลวงไม่ปลอดภัย สั่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการแล้ว
- ทรัมป์เพิ่มภาษีอินเดียอีก 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 50 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในทุกชาติที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ
- 3 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
- ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีอินเดียภายใน 24 ชั่วโมง โทษฐานซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
- สหรัฐฯ ประกาศสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนดวงจันทร์ หวังชิงพื้นที่ก่อนจีน-รัสเซีย
ที่มาข้อมูล : CNN, Reuters
ที่มารูปภาพ : AP
