เวเนซุเอลาส่งเรือรบ-โดรน ลาดตระเวนชายฝั่ง หลังสหรัฐฯ ส่งเรือรบเข้ามาประชิด

ขณะที่ ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ออกมาตำหนิสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (27 สิงหาคม) พร้อมเรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็น “การทูตเรือรบ” ของสหรัฐฯ ที่มาดูโรอ้างว่าละเมิดสนธิสัญญา "ทีลาเทโลลโก" (Tlatelolco) เพื่อการห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์ในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน มาดูโรกล่าวด้วยว่าเวเนซุเอลาถูกข่มขู่ด้วยเรือดำน้ำนิวเคลียร์และไม่เคยมีประเทศใดในลาตินอเมริกาและแถบแคริบเบียนที่ถูกข่มขู่ด้วยเรือดำน้ำนิวเคลียร์มาก่อน มาดูโรกล่าวอีกว่าโลกไม่สามารถย้อนกลับไปใช้การทูตด้วยเรือรบเหมือนเมื่อร้อยปีก่อนได้อีกแล้ว ซึ่งมาดูโรให้ความหมายของการทูตด้วยเรือรบว่ามันคือการนำปืนใหญ่และเรือรบจำนวนมากมาวางอยู่ตรงหน้าเพื่อบังคับให้ยอมจำนนหรือให้ทำในสิ่งที่ต้องการ

ทั้งนี้ ทรัมป์กำหนดนโยบายปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดให้เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารัฐบาลของทรัมป์ยังได้ประกาศขึ้นบัญชีกลุ่มค้ายาเสพติดเม็กซิโก "ซินาโลอา" และอื่น ๆ รวมถึงกลุ่มอาชญากรรม Tren de Aragua ของเวเนซุเอลา ว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายระดับโลก รวมถึงกล่าวว่ามาดูโรเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติด Cartel de los Soles ซึ่งถูกรัฐบาลทรัมป์ประกาศขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้ายด้วยเช่นเดียวกันและเป็นเหตุให้สหรัฐฯ ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับมาดูโรเป็นเงินสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,620 ล้านบาท