สหรัฐฯ พร้อมถล่มแก๊งอาชญากรรมต่างชาติ หากจำเป็น

คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่กองทัพสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีเรือในทะเลแคริบเบียน โดยทำเนียบขาวระบุว่าการโจมตีครั้งนั้นสังหารผู้ลักลอบค้ายาเสพติดได้ 11 คน แม้จะไม่เปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตก็ตาม

เมื่อถูกถามว่าผู้ลักลอบขนคนจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น เม็กซิโกและเอกวาดอร์อาจเผชิญการ “ประหารชีวิตฝ่ายเดียว” โดยกองกำลังสหรัฐฯ หรือไม่ รูบิโอตอบว่า รัฐบาลที่เป็นมิตรจะช่วยระบุตัวคนเหล่านี้เอง

รูบิโออ้างคำพูดทรัมป์ว่า เขาต้องการทำสงครามกับกลุ่มเหล่านี้ เพราะพวกเขาทำสงครามกับเรามานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยไม่มีใครตอบโต้ แต่ในหลายกรณี หากเป็นประเทศพันธมิตรที่เป็นมิตร ก็ไม่จำเป็นต้องทำ เพราะพวกเขาจะช่วยเราด้วยตัวเอง

จนถึงขณะนี้ รัฐบาลเอกวาดอร์และเม็กซิโกยังไม่ได้ประกาศว่าจะยินยอมช่วยเหลือด้านการปฏิบัติการทางทหาร

หลังการโจมตีทางทะเลเมื่อวันที่ 2 กันยายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่สมาชิกแก๊งเวเนซุเอลา Tren de Aragua ที่กำลังลำเลียงยาเสพติดผิดกฎหมายเข้าสู่สหรัฐฯ

นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายทางทะเลบอกกับสำนักข่าว BBC ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวอาจละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายทางทะเล

ต่อมากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหาว่า เครื่องบินทหารเวเนซุเอลาสองลำบินเฉียดเรือรบสหรัฐฯ อย่างยั่วยุ เพื่อพยายามขัดขวางปฏิบัติการต่อต้านการปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดของสหรัฐฯ ซึ่งเวเนซุเอลายังไม่ได้ออกมาตอบโต้

รูบิโอยังประกาศว่า สหรัฐฯ จะมอบเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคง 13.5 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 434 ล้านบาท และเทคโนโลยีโดรนอีก 6 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 193 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเอกวาดอร์ในการปราบปรามการค้ายาเสพติด

ความรุนแรงในเอกวาดอร์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากแก๊งต่าง ๆ ต่อสู้แย่งชิงเส้นทางลำเลียงโคเคนที่ทำกำไรสูง รัฐบาลระบุว่า ขณะนี้โคเคนราว 70% ของโลก ลักลอบผ่านเอกวาดอร์ มุ่งหน้าไปยังตลาดในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย

การขึ้นบัญชีกลุ่ม Los Lobos และ Los Choneros เป็นองค์กรก่อการร้าย สอดคล้องกับความต้องการของประธานาธิบดีดาเนียล โนโบอา ของเอกวาดอร์ ซึ่งเคยย้ำว่า การปราบปรามแก๊งคือ “สงคราม” และเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะยินดีหากสหรัฐฯ มองว่ากลุ่มเหล่านี้คือผู้ก่อการร้าย “เพราะพวกมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ” พร้อมทั้งเรียกร้องให้กองทัพสหรัฐฯ และยุโรปเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้

โนโบอายังพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้กองทัพต่างชาติกลับมาตั้งฐานทัพในประเทศอีกครั้ง หลังฐานทัพสหรัฐฯ แห่งสุดท้ายถูกปิดไปตั้งแต่ปี 2009

การขึ้นบัญชีนี้จะทำให้สหรัฐฯ สามารถอายัดทรัพย์สินและกิจการที่เกี่ยวข้องกับแก๊งได้ รวมถึงสามารถแบ่งปันข่าวกรองกับรัฐบาลเอกวาดอร์เพื่อดำเนินมาตรการที่อาจถึงขั้น “ใช้กำลังสังหาร” ได้โดยไม่มีข้อจำกัด

ความรุนแรงจากแก๊งค้ายาในเอกวาดอร์ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ผลักดันให้ชาวเอกวาดอร์จำนวนมากอพยพไปยังสหรัฐฯ

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนเข้าเมืองชี้ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าการจัดให้แก๊งเหล่านี้เป็นองค์กรก่อการร้าย จะช่วยหรือทำร้ายผู้ที่หนีจากการกดขี่ของแก๊งในการขอลี้ภัยในสหรัฐฯ บางฝ่ายมองว่าอาจทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็น “เหยื่อของการก่อการร้าย” แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อาจเสี่ยงถูกตีความว่าการที่เคยถูกบังคับให้จ่ายค่าคุ้มครอง คือ “การสนับสนุนทางวัตถุ” แก่ผู้ก่อการร้าย