สหรัฐฯ สู่ “ระยะอันราย” ลอบสังหาร-ความรุนแรงทางการเมือง

สหรัฐฯ สู่ “ระยะอันราย” ลอบสังหาร-ความรุนแรงทางการเมือง

ตั้งแต่ก่อนที่จะมีเหตุลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวและอินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาจัด  ก็มีสัญญาณของวิกฤตทางการเมืองมากอยู่แล้ว กอร์ปกับการแบ่งขั้วที่มากขึ้น และวาทกรรมสาธารณะที่ทวีความรุนแรงขึ้น จนแทบจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับความเข้าใจร่วมกันได้  ความรุนแรงที่พุ่งเป้าใส่ทั้งบุคคลฝั่งขวา และฝั่งซ้าย ก็พบว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

แต่การลอบสังหาร “เคิร์ก” ที่งานมหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ (Utah College campus) เมื่อวันพุธ (10 กันยาน) เพียงไม่นานหลังจากที่เขาเริ่มเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเยาวชน์ ก็ยิ่งตอกย้ำได้ชัดเจนมากขึ้นว่าเวลานี้ สหรัฐฯ เข้าสู่ “ระยะอันตราย” ของความรุนแรง ในประเทศที่เต็ไปด้วยความโกรธ และพร้อมจะเผชิญหน้ากัน


วันนี้ ชายหนุ่มถูกสังหารอย่างเลือดเย็น ขณะที่กำลังแสดงทัศนะทางการเมือง .. มันเกิดขึ้นในเขตมหาวิทยาลัย ที่ซึ่งเปิดกว้างในการแลกเปลี่ยนความเห็นที่ขัดแย้งควรได้รับความเคารพ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างศักดิ์สิทธิ์ ความรุนแรงและความเกลียดชังควรต้องถูกกำจัดออกไปจากที่สาธารณะ”  จอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขียนข้อความแสดงความเห็นในเรื่องนี้ 


แม้จะยังไม่มีมูลเหตุจูงใจสังหารที่ชัดเจน และการไล่ล่ามือปืนยังคงดำเนินต่อไป แต่การลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งชาติ ในยุคที่ความขัดแย้งทางการเมืองได้ก่อตัวขึ้นเป็น “ศัตรู” ที่ขมขื่นที่กำลังแบ่งแยกหสรัฐอเมริกา

สรุปข่าว

เหตุลอบสังหาร "ชาร์ลี เคิร์ก" ที่มหาวิทยาลัยในยูทาห์ สะท้อนว่าสหรัฐฯ เข้าสู่ “ระยะอันตราย” ของความรุนแรงทางการเมือง แม้ยังไม่ทราบแรงจูงใจ แต่เหตุนี้ถูกมองว่าเป็นโศกนาฏกรรม ท่ามกลางเหตุลอบสังหารและโจมตีนักการเมืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา

ตั้งแต่ก่อนที่จะมีเหตุลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวและอินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาจัด  ก็มีสัญญาณของวิกฤตทางการเมืองมากอยู่แล้ว กอร์ปกับการแบ่งขั้วที่มากขึ้น และวาทกรรมสาธารณะที่ทวีความรุนแรงขึ้น จนแทบจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับความเข้าใจร่วมกันได้  ความรุนแรงที่พุ่งเป้าใส่ทั้งบุคคลฝั่งขวา และฝั่งซ้าย ก็พบว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

แต่การลอบสังหาร “เคิร์ก” ที่งานมหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ (Utah College campus) เมื่อวันพุธ (10 กันยาน) เพียงไม่นานหลังจากที่เขาเริ่มเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเยาวชน์ ก็ยิ่งตอกย้ำได้ชัดเจนมากขึ้นว่าเวลานี้ สหรัฐฯ เข้าสู่ “ระยะอันตราย” ของความรุนแรง ในประเทศที่เต็ไปด้วยความโกรธ และพร้อมจะเผชิญหน้ากัน


วันนี้ ชายหนุ่มถูกสังหารอย่างเลือดเย็น ขณะที่กำลังแสดงทัศนะทางการเมือง .. มันเกิดขึ้นในเขตมหาวิทยาลัย ที่ซึ่งเปิดกว้างในการแลกเปลี่ยนความเห็นที่ขัดแย้งควรได้รับความเคารพ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างศักดิ์สิทธิ์ ความรุนแรงและความเกลียดชังควรต้องถูกกำจัดออกไปจากที่สาธารณะ”  จอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขียนข้อความแสดงความเห็นในเรื่องนี้ 


แม้จะยังไม่มีมูลเหตุจูงใจสังหารที่ชัดเจน และการไล่ล่ามือปืนยังคงดำเนินต่อไป แต่การลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งชาติ ในยุคที่ความขัดแย้งทางการเมืองได้ก่อตัวขึ้นเป็น “ศัตรู” ที่ขมขื่นที่กำลังแบ่งแยกหสรัฐอเมริกา

เพียง 1 ปีก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อยู่ระหว่างการหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย ก็เพิ่งรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารแบบฉิวเฉียด และคณะลูกขุนเพิ่งเปิดพิจารณาคดีชายคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามสังหารเขาในเหตุการณ์ที่รัฐฟลอริดาด้วย

(ซ้ายไปขวา) เมลิสสา ฮอร์ทแมน, จอห์น ฮอฟฟ์แมน, จอร์จ ชาไพโร

((ซ้ายไปขวา) เมลิสสา ฮอร์ทแมน, จอห์น ฮอฟฟ์แมน, จอร์จ ชาไพโร)

ขณะที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมลิสสา ฮอร์ทแมน (Melissa Hortman) นักการเมืองสายเดโมแครตในรัฐมินนิโซตา และสามีของเธอ ก็เพิ่งถูกสังหารภายในบ้านพักส่วนตัว ซึ่งสำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ชี้ว่า “นี่คือความรุนแรงที่พุ่งเป้าที่เลวร้ายอย่างยิ่ง” ที่ถูกเตรียมการไว้ก่อน เนื่องจากผู้เสียชีวิตคือนักการเมืองที่เพิ่งได้รับเลือกตั้ง


อีกทั้งวุฒิสมาชิก จอห์น ฮอฟฟ์แมน รัฐมินนิโซตา และภริยาก็ถูกยิง แต่รอดชีวิตมาได้  เช่นเดียว จอร์จ ชาไพโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย พรรคเดโมแครต ก็รอดชีวิตจากเหตุจุดไฟเผาแมนชั่นของเขาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 

สหรัฐฯ เคยเผชิญการลอบสังหารประธานาธิบดีในตำแหน่งถึง 4 คน คือ

- อับราฮัม ลินคอล์น (1865)

- เจมส์ เอ. การ์ฟิลด์ (1881)

- วิลเลียม แมกคินลีย์ (1901)

- จอห์น เอฟ. เคนเนดี (1963) 


ส่วนโรนัดล์ เรแกน (1981) เป็นประธานาธิบดีในตำแหน่งเดียงคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุพยายามลอบสังหาร 


ขณะที่ ธีโอดอร์ รูสเวล์ท (1912) และโดนัลด์ ทรัมป์ (2024) เป็นอดีตประธานาธิบดี 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุพยายามลอบสังหาร ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการหาเสียงเพื่อสมัยที่ 2


เรื่องเหล่านี้ สะท้อนการเมืองในสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการลอบสังหาร, การยิง และความรุนแรง ซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองของ CNN แสดงความกังวลว่า การลอบสังหาร “ชาร์ลี เคิร์ก” อาจยิ่งบ่มเพาะความรุนแรง, เกิดการตอบโต้  และยิ่งทำให้วงจรการนองเลือดทางการเมืองเลวร้ายลง


“นี่คือช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับอเมริกา” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลง พร้อมยกย่องเคิร์กว่า “ผู้พลีชีพเพื่อความจริง และอิสรภาพ”