UN ลงมติรับรองแนวทาง "สองรัฐ" ระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์

UN ลงมติรับรองแนวทาง "สองรัฐ" ระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์

เมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) มีมติอย่างท่วมท้นให้การรับรองปฏิญญาที่ระบุ "ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรม, มีกรอบเวลาชัดเจน และไม่อาจย้อนกลับได้" เพื่อเดินหน้าสู่แนวทางการจัดตั้งรัฐคู่ขนาน (Two-State Solution) หรือการแก้ปัญหาสองรัฐ ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ก่อนการประชุมผู้นำโลกที่กำลังจะมีขึ้น


ปฏิญญา 7 หน้า ฉบับนี้ เป็นผลจากการประชุมนานาชาติที่สหประชาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมภายใต้การเป็นเจ้าภาพร่วมของซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศส โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯและอิสราเอลได้คว่ำบาตร ไม่เข้าร่วมการประชุม


มติรับรองปฏิญญาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก 142 ประเทศ, มีเพียง 10 ประเทศที่คัดค้าน และ 12 ประเทศงดออกเสียง

สรุปข่าว

ยูเอ็นลงมติรับรองปฏิญญาหนุนแนวทาง “สองรัฐ” ระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธมติดังกล่าว ชี้เป็น “ละครการเมืองที่ไม่ยึดโยงความจริง”

เมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) มีมติอย่างท่วมท้นให้การรับรองปฏิญญาที่ระบุ "ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรม, มีกรอบเวลาชัดเจน และไม่อาจย้อนกลับได้" เพื่อเดินหน้าสู่แนวทางการจัดตั้งรัฐคู่ขนาน (Two-State Solution) หรือการแก้ปัญหาสองรัฐ ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ก่อนการประชุมผู้นำโลกที่กำลังจะมีขึ้น


ปฏิญญา 7 หน้า ฉบับนี้ เป็นผลจากการประชุมนานาชาติที่สหประชาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมภายใต้การเป็นเจ้าภาพร่วมของซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศส โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯและอิสราเอลได้คว่ำบาตร ไม่เข้าร่วมการประชุม


มติรับรองปฏิญญาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก 142 ประเทศ, มีเพียง 10 ประเทศที่คัดค้าน และ 12 ประเทศงดออกเสียง

การลงมติดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการประชุมระดับผู้นำโลกในวันที่ 22 กันยายน ซึ่งจะจัดขึ้นขนานกับการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นประจำปี โดยมีรายงานว่า อังกฤษ, ฝรั่งเศส, แคนาดา, ออสเตรเลีย และเบลเยียม เตรียมประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุม


ปฏิญญาดังกล่าวที่ได้รับการรับรองโดยสมาชิก 193 ประเทศ ของยูเอ็น ยังได้ประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดสงครามในฉนวนกาซา รวมถึงประณามการโจมตีของอิสราเอลต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานในกาซา, การปิดล้อมและตัดเส้นทางความช่วยเหลือ ซึ่งนำไปสู่ “หายนะด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง” และ “วิกฤตการคุ้มครองพลเรือน”


ด้านอิสราเอลออกมาปฏิเสธมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่มีคะแนนเสียงท่วมท้นในการรับรองปฏิญญา ซึ่งเสนอแนวทางสู่การจัดตั้งสองรัฐระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล โอเรน มาร์มอร์สไตน์ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ได้ว่า สมัชชาใหญ่ยูเอ็นเป็นเพียงละครการเมืองที่ไม่ยึดโยงกับความเป็นจริง ในถ้อยแถลงหลายสิบข้อของปฏิญญาที่ได้รับการรับรองจากมตินี้ ไม่มีแม้แต่ประโยคเดียวที่ระบุว่า 'ฮามาส' เป็นองค์กรก่อการร้าย

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters