มาร์ก รุตเต เลเขาธิการนาโต แถลงเมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ว่า นาโตได้เปิดตัวปฏิบัติการ “Eastern Sentry” ที่มีกำหนดเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์จากทั้ง เดนมาร์ก ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี และประเทศสมาชิกอื่น ๆ เพื่อปกป้องแลเสริมความแข็งแกร่งให้กับที่ทางปีกตะวันออกของทวีปยุโรป หลังเกิดเหตุโดรนรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เลขาธิการนาโตกล่าวว่าปฏิบัติการ “Eastern Sentry” จะเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรของนาโตและเป็นการแสดงให้เห็นว่านาโตพร้อมเสมอที่จะปกป้องพันธมิตร ตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน โดยยึดหลักว่าการโจมตีประเทศสมาชิกหนึ่งจะถือเป็นการโจมตีประเทศในพันธมิตรนาโตทั้งหมด
รุตเต กล่าวด้วยว่า การกระทำของรัสเซียต่อน่านฟ้าของโปแลนด์เป็นสิ่งที่ “อันตรายและยอมรับไม่ได้” ซึ่งเขามองว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวและรัสเซียกำลังคุกคามน่านฟ้าของประเทศสมาชิกฝั่งยุโรปตะวันออกมากขึ้น
ขณะที่ พลเอกอเล็กซัส กรินคีวิช ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งนาโต กล่าวว่า ปฏิบัติการ Eastern Sentry ซึ่งจะบูรณการทั้งการป้องกันภัยทางอากาศและทางภาคพื้นดิน ตลอดจนเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลระหว่างพันธมิตรนาโต ซึ่งกรินคีวิชกล่าวว่าปฏิบัติการนี้จำเป็นต้องทำขึ้นในระยะยาวเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แต่ปฏิบัติการในขั้นแรกจะเริ่มขึ้นในทันที
เขายังเปิดเผยด้วยว่า ยุทโธปกรณ์ที่จะถูกนำมาเข้าร่วมในปฏิบัตินี้ประกอบด้วย เครื่องบินรบ F-16 จำนวน 2 ลำ, เรือฟริเกตสำหรับต่อสู้อากาศยานจากเดนมาร์ก, เครื่องบินรบราฟาล 3 ลำ จากฝรั่งเศส และเครื่องบินรบยูโรไฟท์เตอร์ 4 ลำ จากเยอรมนี
สรุปข่าว
มาร์ก รุตเต เลเขาธิการนาโต แถลงเมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ว่า นาโตได้เปิดตัวปฏิบัติการ “Eastern Sentry” ที่มีกำหนดเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์จากทั้ง เดนมาร์ก ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี และประเทศสมาชิกอื่น ๆ เพื่อปกป้องแลเสริมความแข็งแกร่งให้กับที่ทางปีกตะวันออกของทวีปยุโรป หลังเกิดเหตุโดรนรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เลขาธิการนาโตกล่าวว่าปฏิบัติการ “Eastern Sentry” จะเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรของนาโตและเป็นการแสดงให้เห็นว่านาโตพร้อมเสมอที่จะปกป้องพันธมิตร ตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน โดยยึดหลักว่าการโจมตีประเทศสมาชิกหนึ่งจะถือเป็นการโจมตีประเทศในพันธมิตรนาโตทั้งหมด
รุตเต กล่าวด้วยว่า การกระทำของรัสเซียต่อน่านฟ้าของโปแลนด์เป็นสิ่งที่ “อันตรายและยอมรับไม่ได้” ซึ่งเขามองว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวและรัสเซียกำลังคุกคามน่านฟ้าของประเทศสมาชิกฝั่งยุโรปตะวันออกมากขึ้น
ขณะที่ พลเอกอเล็กซัส กรินคีวิช ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งนาโต กล่าวว่า ปฏิบัติการ Eastern Sentry ซึ่งจะบูรณการทั้งการป้องกันภัยทางอากาศและทางภาคพื้นดิน ตลอดจนเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลระหว่างพันธมิตรนาโต ซึ่งกรินคีวิชกล่าวว่าปฏิบัติการนี้จำเป็นต้องทำขึ้นในระยะยาวเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แต่ปฏิบัติการในขั้นแรกจะเริ่มขึ้นในทันที
เขายังเปิดเผยด้วยว่า ยุทโธปกรณ์ที่จะถูกนำมาเข้าร่วมในปฏิบัตินี้ประกอบด้วย เครื่องบินรบ F-16 จำนวน 2 ลำ, เรือฟริเกตสำหรับต่อสู้อากาศยานจากเดนมาร์ก, เครื่องบินรบราฟาล 3 ลำ จากฝรั่งเศส และเครื่องบินรบยูโรไฟท์เตอร์ 4 ลำ จากเยอรมนี
มีรายงานด้วยว่าปฏิบัติการดังกล่าวได้แบบจำลองมาจากปฏิบัติการ “Baltic Sentry” ที่นาโตได้เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีเพื่อตอบโต้เหตุก่อวินาศกรรมกับสายเคเบิลใต้ทะเลบอลติก
สำหรับขอบเขตของปฏิบัติการ Eastern Sentry พลเอก กรินคีวิช กล่าวว่าจะครอบคลุมทั่วทั้งแนวประเทศสมาชิกทางฝั่งปีกตะวันออกของยุโรปตั้งแต่ทางเหนือสุดไปจนถึงทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดแนวตะวันออกของยุโป นาโตจะปรับเปลี่ยนท่าทีและการวางกำลังอย่างต่อเนื่องในลักษณะที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันตั้งตัว แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ขณะที่เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ เรียกเหตุโดรนรัสเซียรุกล้ำว่าเป็นการโจมตี พร้อมกล่าวว่าเหตุเช่นนี้ “ไม่ใช่ความผิดพลาด” ซึ่งคำกล่าวของทัสก์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสเงความคิดเห็นว่าโดรนที่ล้ำน่านฟ้าอาจเป็นอุบัติเหตุจากความผิดพลาด ซึ่งนายกรัฐมนตรีโปแลนด์กล่าวด้วยว่าเขาก็หวังให้การกระทำเช่นนี้เป็นความผิดพลาดแต่มันไม่ใช่และพวกเขารู้ดี
ทางการโปแลนด์ เปิดเผยจากเหตุครั้งนี้ สามารถระบุได้ว่าพบโดรนรัสเซียมากกว่า 21 ลำที่รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของประเทศที่ส่วนใหญ่ใช้เส้นทางบินผ่านมาทางเบลารุส แต่โปแลนด์ยอมรับว่าโดรนทั้งหมดยังไม่ถูกค้นพบ เนื่องจาก มีความเป็นไปได้ที่โดรนบางลำบินเข้าออกและข้ามน่านฟ้าไปมาจึงทำให้ไม่สามารถสกัดได้หรือพบชิ้นส่วนตกลงสู่พื้น
ทั้งนี้ ท่าทีฝั่งรัสเซีย วาซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนรัสเซียแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าโปแลนด์เร่งกล่าวหารัสเซียมากเกินไปโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งผู้แทนรัสเซียกล่าวว่าพิสัยการบินสูงสุดของโดรนที่ใช้อยู่ที่ไม่เกิน 700 กิโลเมตร ซึ่งในทางกายภาพมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบินไกลไปถึงในดินแดนของโปแลนด์
