ไอเอดีบี ชี้ "ลาตินอเมริกา" จะยากจน หลังการระบาดโควิด-19

วันนี้ (28 ก.ค.63) นายลูอิส อัลเบอร์โต โมเรโน ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐอเมริกา หรือ ไอเอดีบี เปิดเผยว่า ลาตินอเมริกาจะหลุดพ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยอัตราความยากจนที่สูงขึ้น ในขณะที่ ลาตินอเมริกาพยายามควบคุมไวรัส จนทำให้การว่างงานและหนี้สินพุ่งขึ้น

ลาตินอเมริกา ซึ่งเศรษฐกิจเติบโตแบบชะลอตัวมาหลายปีแล้ว คาดว่า จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจหดตัวระหว่างร้อยละ 8 ถึงร้อยละ 10 ในปีนี้  อันเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการกักตัว

นายโมเรโน กล่าวต่อไปว่า การระบาดของโควิด-19 ไม่เพียงแต่จะทำให้ลาตินอเมริกายากจน แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลกอีกด้วย และมีความชัดเจนว่า ลาตินอเมริกาจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก  เพราะเป็นภูมิภาคตลาดเกิดใหม่

แต่ในปีนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐอเมริกา จะอนุมัติเงินกู้ในวงเงินเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินราว 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะให้รัฐบาลต่างๆ เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขให้มีความแข็งแกร่ง แต่จะไม่จัดสรรเงินกู้ให้รัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา เพราะรัฐบาลของมาดูโร ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เวเนซุเอลาตกอยู่ในภาวะถดถอยมาแล้ว 6 ปี และเงินเฟ้อประจำปีพุ่งเกิน 3,500% อย่างไรก็ตาม  โมเรโน ระบุว่า ปริมาณน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ของเวเนซุเอลา จะเป็นโอกาสดีในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ หลังเปลี่ยนรัฐบาลชุดปัจจุบัน