สรุปข่าว
รายงานจาก เคาเตอร์พ้อทย์ ระบุว่า สมาร์ตโฟนที่รองรับ เจน เอไอ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ที่มีเพียงร้อยละ 1.3 เป็นร้อยละ 6 สะท้อนให้เห็นว่า ความสามารถของ เจน เอไอ ได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์มือถือ และจะเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดในปีถัด ๆ ไปด้วย และเพียงไตรมาสเดียว จำนวนรุ่นของสมาร์ตโฟนที่รองรับ เจน เอไอ ก็เพิ่มขึ้นจาก 16 รุ่น เป็น 30 รุ่น
โดยยอดขาดสูงสุดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา 3 อันดับแรก ได้แก่ Galaxy S24 Ultra เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด มีส่วนแบ่งตลาดที่ร้อยละ 30 รองมาคือ Galaxy S24 และ Galaxy S24 Plus มีสัดส่วนของยอดขาย ที่ร้อยละ 16.8 และร้อยละ 11.5 ตามลำดับ (และเมื่อรวมทั้ง 3 รุ่น มีส่วนแบ่งรวมกัน อยู่ที่ร้อยละ 58)
ส่วนอันดับ 4 ถึงอันดับ 9 เป็นสมาร์ตโฟน เอไอ ของแบรนด์ชั้นนำจากจีนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เสียวหมี่(Xiaomi) วีโว่(vivo) ออเนอร์ (HONOR) และ ออปโป้ (OPPO)
ซึ่งเคาน์เตอร์พ้อยท์ ระบุว่า แบรนด์จีน กำลังบูรณาการฟีเจอร์ เอไอ อย่างจริงจัง รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพบุคคลที่สร้างโดย เอไอ, ยางลบ เอไอ และผู้ช่วยเสมือนออฟไลน์ เป็นต้น โดยกลยุทธ์ของแบรนด์จีน จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดในประเทศก่อนเป็นอันดับแรก นั่นทำให้ จีน กลายเป็นตลาดสมาร์ตโฟนที่รองรับ เจน เอไอ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองตลาดมากถึง หนึ่งในสามของตลาดโลก
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ด้วยว่า ปี 2024 มือถือ เอไอ จะครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 11 ของตลาดสมาร์ตโฟนโดยรวม จากจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับมือถือ เอไอ ก็เพิ่มมากขึ้น และยังคาดว่า แอปเปิล น่าจะเข้ามาในกลุ่มมือถือ เจน เอไอ ในปลายปีนี้
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand