ชี้เป้า MINT มีลมหนุน ท่องเที่ยวยุโรปที่แข็งแกร่ง

ชี้เป้า MINT มีลมหนุน ท่องเที่ยวยุโรปที่แข็งแกร่ง

สรุปข่าว

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ในไตรมาส 3/67 สถิตินักท่องเที่ยวของยุโรปยังแข็งแกร่ง จากข้อมูลของ Instituto Nacional de Estadistica ระบุว่า เดือนก.ค.และส.ค. 2567 สเปนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน (yoy) และร้อยละ 9 yoy ตามลำดับ ซึ่งสเปนเป็นประเทศที่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT มีธุรกิจอยู่มากสุดในยุโรป มีรายได้จากโรงแรมในสเปนมีสัดส่วนราวร้อยละ 31 ของรายได้จากโรงแรมในยุโรปและสหรัฐในไตรมาส 2/67


ขณะที่นักท่องเที่ยวของอิตาลีเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 yoy ในเดือนก.ค. 2567 ซึ่งรายได้จากโรงแรมในอิตาลีมีสัดส่วนราว  ร้อยละ 22 ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมในยุโรป และสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/2567 จึงมองว่าสถิตินักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งจะส่งผลดีต่อโรงแรมของ MINT ในสเปนและอิตาลี ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนโรงแรมในยุโรปและสหรัฐฯของบริษัท ส่วนประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 yoy ในไตรมาส 3/67 จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีต่อ MINT

 

โรงแรมส่วนใหญ่ของ MINT ในยุโรปและสหรัฐฯ อยู่ภายใต้กลุ่ม NH Hotel Group ซึ่ง MINT ถือหุ้น ร้อยละ 96 ทั้งนี้ โรงแรมของ MINT ในยุโรปทำรายได้คิดเป็นร้อยละ 62 ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 1/67 เนื่องจากเป็นโลว์-ซีซั่น และเพิ่มเป็นร้อยละ 75 ในไตรมาส 2/67 ซึ่งเป็นไฮ-ซีซั่น

 

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า แม้ธุรกิจอาหารของ MINT ในไตรมาส 3/67 จะยังมีผลการดำเนินงานชะลอลงบ้าง เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ แต่คาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังรัฐบาลมอบเงิน 1.45 แสนล้านบาทถึงมือผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้านคนในปลายเดือนก.ย. 2567 จึงคาดว่า MINT จะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบที่ร้อยละ 1  yoy และมีอัตราการเติบโตของยอดขายรวม (TSSG) อยู่ที่ร้อยละ 3  yoy ในไตรมาส 3/2567

 

ขณะที่คาดว่า Wealth Effect ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นและ sentiment ที่ดีขึ้น น่าจะช่วยให้ผล ประกอบการของธุรกิจอาหารกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4/2567 และปี 2568

 

โรงแรมของ MINT ในยุโรปน่าจะยังมีรายได้เติบโตสูง จากสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แข็งแกร่ง แต่ยังต้องจับตาดูอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจโรงแรม ซึ่งลดลงจาก ร้อยละ 42.4 ในไตรมาส 2/ 2566 เป็น ร้อยละ 40.0 ในไตรมาส 2/2567 เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น จึงทำประมาณการ GPM ของธุรกิจโรงแรมอยู่ที่เพียง ร้อยละ 38.0 ในไตรมาส 3/67 เทียบกับร้อยละ 41.5 ในไตรมาส 3/2566 โดยคาดว่า MINT จะทำกำไรสุทธิ 2,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 17  yoy แต่จะลดลง ร้อยละ 12 เทียบกับไตรมาสก่อน( qoq ) ในไตรมาส 3/2567

 

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่าการที่โรงแรมในยุโรปของ MINT มีผลกำไรดีในไตรมาส 3/2567 เพราะได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง น่าจะทำให้ราคาของ MINT ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นขณะนี้ยัง underperform ตลาด (MINT ติดลบร้อยละ 3 เทียบต้นปีถึงปัจจุบัน vs. SET เพิ่มร้อยละ 2 ) ขณะที่คาดว่า MINT จะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงในปี 2568-2569 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะเติบโตต่อเนื่องและดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงจากแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

ดังนั้น CGSI จึงยังแนะนำ “ซื้อ” MINT แต่เลื่อนปีฐานในการประเมินมูลค่า ทำให้ราคาเป้าหมายในปัจจุบันอยู่ที่ 41 บาท เท่ากับ EV/EBITDA 9.5 เท่าในปี 2569 หรือยังเท่ากับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี อย่างไรก็ตาม อาจมี downside risk หรือความเสี่ยงขาลง หากบริษัทมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของยุโรปชะลอตัวรุนแรง

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand