ทองคำถึงเวลาขาลงแล้วหรือยัง? วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำถึงเวลาขาลงแล้วหรือยัง?  วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

สรุปข่าว

Gold Bullish
Gold Bearish
ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รุนแรงมากขึ้นธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
การกระจายวัคซีนโควิด-19


ทองคำปรับตัวลงแรง ถูกกดดันจากความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้บของเฟด

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำ spot ปรับตัวลงต่อเนื่องเข้าใกล้บริเวณ 1,810 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำยังถูกแรงกดดันจาก 1. การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องมาบริเวณ 105 ดอลลาร์นับว่าดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 20 ปี  2. การพุ่งขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยเราต้องพิจารณาพันธบัตรรัฐบาลรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินและตลาดทุนของสหรัฐ ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีมีแนวโน้มขาขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นกว่า 3.20% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี 


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและราคาทองคำ

 ทองคำถึงเวลาขาลงแล้วหรือยัง?  วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง


ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนมีสาเหตุมาจากความกังวลที่เฟดได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในอีก 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ตามนักลงทุนมีความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.5% อาจไม่เพียงพอต่อการสกัดกั้นเงินเฟ้อ และมีโอกาสเป็นไปได้ว่าเฟดอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75% ในการประชุมต่อไป ทางด้านข้อมูล CME Group พบว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสถึง 92.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่งผลเป็นแรงกดดันตลาดทองคำ เนื่องจากทองคำไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น การลงทุนในทองคำจึงถูกลดความน่าสนใจลง 


ทองคำถึงเวลาขาลงแล้วหรือยัง? 

ไม่ใช่เพียงตลาดทองคำเท่านั้นที่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวลงอย่างร้อนแรง ตลาดหุ้น คริปโตเคอเรนซี่ก็ปรับตัวลงอย่างร้อนแรงเช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดดังกล่าวก็หนีไม่พ้นสาเหตุเดียวกันคือความกังวลของการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จนทำให้ดูเหมือนว่าตลาดเหล่านั้นเข้าสู่แนวโน้มขาลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าดูเหมือนจะเป็นแนวโน้มขาลงของตลาดทองคำ  แต่เป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ที่นักลงทุนได้มีการคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะมาสู่ระดับ 2.50%-2.75% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอย่างร้อนแรงทีเดียว สร้างแรงกดดันตลาดทองคำ ในช่วงที่เหลือของปี แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้มาจากการต่อสู้ของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในรอบ 40 ปี ทำให้ทองคำยังเป็นที่น่าสนใจมากกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ตลาดหุ้น  เนื่องจากทองคำสามารถป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อได้ดี อีกประการหนึ่งที่ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเกิดจากสงครามรัสเซียและยูเครน ที่คาดว่าตลอดทั้งปีนี้ยังคงยืดเยื้อและไม่จบลงอย่างง่ายดาย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะสะท้อนให้เริ่มเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้  ทำให้อาจเกิดการปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจลงได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังคาดการณ์ว่าในระยะยาวราคาทองคำยังเป็นที่น่าสนใจ และหาจังหวะเข้าซื้อสะสมทองคำในช่วงที่ราคาทองคำอ่อนตัวลง


แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้น ราคาทองคำปรับตัวลง สัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนเม.ย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. นอกจากนี้ติดตาม การแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่าน และการแถลงการณ์ของประธานเฟด รวมถึงการแถลงของประธาน ECB

ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,840 ดอลลาร์ และ 1,860 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,500 บาท และ 29,300 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 30,000 บาท และ 30,200 บาท



ข้อมูลจาก: ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : AFP , ฮั่วเซ่งเฮง

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand