ทองคำผันผวน หลังทรัมป์เลื่อนภาษี EU

ทองคำผันผวน หลังทรัมป์เลื่อนภาษี EU

ราคาทองคำที่เคยพุ่งแรงในช่วงต้นปีเริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 50% กับสหภาพยุโรปออกไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเดิมกำหนดไว้เริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน ท่ามกลางการเจรจาที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ทรัมป์ให้เหตุผลว่า การพูดคุยกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเป็นไปในทางบวก จึงตัดสินใจถอยชั่วคราว

แม้ข่าวดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนบางส่วน แต่ตลาดยังคงระวังอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของทรัมป์ที่เปลี่ยนท่าทีหลายครั้ง ทำให้นโยบายการค้าของเขาถูกมองว่ายากจะคาดเดา ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) ปรับตัวลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

สรุปข่าว

ราคาทองคำในช่วงนี้ผันผวนจากข่าวการเมืองและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้การเลื่อนเก็บภาษีกับยุโรปจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดระยะสั้น แต่ตลาดยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากค่าเงินดอลลาร์ นโยบายดอกเบี้ยของเฟด และความเสี่ยงของ Stagflation บริษัท YLG Bullion มองว่า หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 3,200–3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก็ยังมีโอกาสกลับเข้าสู่โมเมนตัมขาขึ้นในระยะกลาง โดยตั้งเป้าราคาทองคำในปีนี้ไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐตามเดิม

ราคาทองคำที่เคยพุ่งแรงในช่วงต้นปีเริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 50% กับสหภาพยุโรปออกไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเดิมกำหนดไว้เริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน ท่ามกลางการเจรจาที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ทรัมป์ให้เหตุผลว่า การพูดคุยกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเป็นไปในทางบวก จึงตัดสินใจถอยชั่วคราว

แม้ข่าวดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนบางส่วน แต่ตลาดยังคงระวังอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของทรัมป์ที่เปลี่ยนท่าทีหลายครั้ง ทำให้นโยบายการค้าของเขาถูกมองว่ายากจะคาดเดา ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) ปรับตัวลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส นายนีล แคชคารี ออกมาเตือนว่า การขึ้นภาษีที่เป็นวงกว้าง อาจกระตุ้นให้เกิด “Stagflation” หรือ ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้นโยบายลดดอกเบี้ยในอนาคต และเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดการเงินโดยรวม

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำขณะนี้ประกอบด้วย 4 เรื่องหลัก ได้แก่:

  1. ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าหลัก ซึ่งยังมีเวลาเพียงราว 1 เดือนครึ่งเท่านั้น โดยปัจจุบันมีเพียงสหราชอาณาจักรที่สามารถตกลงภาษีได้แน่ชัด ส่วนจีนแม้จะลดภาษีลงเหลือ 30% ก็เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว

  2. ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งกลับมาแข็งค่าจน Dollar Index พุ่งเหนือระดับ 99 หลังจากอ่อนตัวลงเพราะกังวลเรื่องหนี้และงบประมาณ

  3. ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ซึ่งเฟดยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพราะเศรษฐกิจยังเปราะบาง

ความไม่แน่นอนเชิงนโยบายของทรัมป์ ทำให้นักลงทุนยังคงมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะกลาง แม้ราคาจะปรับตัวลงในระยะสั้น

ที่มาข้อมูล : investing

ที่มารูปภาพ : canvas