ทำไมเงินเฟ้อขึ้น แต่ทองกลับลง? วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ทำไมเงินเฟ้อขึ้น แต่ทองกลับลง? วิเคราะห์โดย  ฮั่วเซ่งเฮง

สรุปข่าว

Gold Bullish
Gold Bearish 
ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และเดือนก.ค.
 สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รุนแรงมากขึ้น
การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
การกระจายวัคซีนโควิด-19


ทำไมเงินเฟ้อขึ้น ทองถึงลง? 

อีกหนึ่งสาเหตุที่หลายคนสงสัยว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ หรือแม้แต่อัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศก็ล้วนมีความกังวลถึงภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากในขณะนี้อัตราเงินเฟ้อในประเทศอื่น ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐก็พุ่งขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งเราเข้าใจกันดีว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันเงินเฟ้อได้ ทำไมดูเหมือนว่าคราวนี้เงินเฟ้อไม่มีผลให้ทองคำขึ้นล่ะ ซึ่งเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ผลตอบแทนการฝากเงินมีมากขึ้น แม้จะต่ำกว่าเงินเฟ้อในสหรัฐก็ตาม แต่เงินเฟ้อในสหรัฐก็อยู่ราว ๆ ประมาณร้อยละ 8-10 ขึ้นกับแต่ละรัฐ แต่ทั้งนี้จากปกติค่าแรงในสหรัฐชั่วโมงละ 12 เหรียญ แต่ด้วยปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ผู้ประกอบการจึงมีการปรับค่าแรง จนค่าแรงรายชั่วโมงอยู่ที่ราว 16 เหรียญ จะเห็นว่าขึ้นมาราวร้อยละ 30 มากกว่าเงินเฟ้อในสหรัฐหลายเท่าตัว ผู้ประกอบการก็ปรับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปเงินเฟ้อที่เราเห็นกัน เมื่อพิจารณาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นไปอย่างร้อนแรง โดยในปีนี้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด ในภาวะเงินเฟ้อทองคำยังช่วยรักษาและป้องกันมูลค่าจากภาวะเงินเฟ้อได้ดี เมื่อเกิดเงินเฟ้อขึ้น ก็จะมีการเคลื่อนย้ายเงินไปยังสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ ซึ่งทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ดีตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่เฟดเคยคาดการณ์ไว้ และการปรับลดการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงที่เร็วขึ้น ทำให้กลายเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำในช่วงเวลาที่ผ่านมา


แม้ราคาทองคำจะลง แต่ก็ยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ

หากพิจารณาดูอัตราผลตอบแทนของราคาทองคำ แม้ว่าในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำจะปรับตัวลงก็ตาม แต่ราคาทองคำก็ยังปรับตัวลงไม่มากเท่าสินทรัพย์อื่น ๆ โดยราคาทองคำปรับตัวลงจาก 2,069.74 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ไปเพียง 10.83% ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลงไปเพียง 5.36% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น Dow Jones ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ไปกว่า 15.26% S&P500 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ไปกว่า 19.03% และ Nasdaq ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ไปกว่า 28.29% ส่วนคริปโตเคอเรนซี่ อย่างเช่น BITCOIN ปรับตัวลงจากราคา 48,199 เหรียญ ซึ่งระดับสูงสุดในปีนี้ไปกว่าเกือบ 40% ทั้งนี้แม้ว่าดุเหมือนว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงไปเช่นกัน แต่เมื่อพิจารณาอัตราผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีนั้น ราคาทองคำยังให้อัตราผลตอบแทนที่เป็นบวก ซึ่งยังคงให้อัตราผลตอบแทนในปีนี้กว่า 2.47% ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ได้แก่ Dow Jones อัตราผลตอบแทนติดลบ 14.38% และ BITCOIN อัตราผลตอบแทนติดลบ 38.88% ทั้งนี้ราคาทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ที่ยังคงน่าสนใจในการลงทุน 

Return                                           Year 2022        

Asset class price at the beginning of the year Price as of 20 May 2022% of Return
Gold spot  1,801.10 1,845.60  2.47%
Thai gold bar  28,700.00 30,000.00 4.53%
USD/THB33.24 34.413.52%
US dollar Index  96.22 103.02     7.07%
Crude oil price (WTI) 76.08 110.3345.02%
Dow Jones (US) 36,455.00  31,213.00-14.38%
S&P5004,796.56 3,901.36-18.66% 
Nasdaq16,485.5011,838.00  -28.19%
SET (Thailand)  1,670.281,622.95 -2.83%
BITCOIN 47,738.0029,178.60-38.88%

              

หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านบริเวณแนวต้าน 1,855-1,860 ดอลลาร์ มีโอกาสที่ราคาทองคำอาจเกิดแรงเทขายอีกครั้ง สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ซึ่งเป็นผลการประชุมในวันที่ 15-16 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%  นอกจากนี้สหรัฐเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2) ตลาดคาดว่าจะติดลบ 1.3% หลังจากประมาณการครั้งแรกติดลบ 1.4% และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี


ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,820 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และ 1,870 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,650 บาท และ 29,500 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 30,300 บาท และ 30,500 บาท

ทำไมเงินเฟ้อขึ้น แต่ทองกลับลง? วิเคราะห์โดย  ฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : ทีมพีอาร์ ฮั่วเซ่งเฮง
ทำไมเงินเฟ้อขึ้น แต่ทองกลับลง? วิเคราะห์โดย  ฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : ทีมพีอาร์ ฮั่วเซ่งเฮง



ข้อมูลจาก: ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : AFP , ฮั่วเซ่งเฮง


ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand