
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดปฏิบัติการ "ฟ้าสางทลายธุรกิจเถื่อน" เข้าปิดล้อมตรวจค้นกว่า 109 จุดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการทลายเครือข่ายที่ดำเนินการแลกเหรียญ ผ่านการสแกนม่านตา
สรุปข่าว
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดปฏิบัติการ "ฟ้าสางทลายธุรกิจเถื่อน" เข้าปิดล้อมตรวจค้นกว่า 109 จุดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการทลายเครือข่ายที่ดำเนินการแลกเหรียญ ผ่านการสแกนม่านตา
พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงผลการปฏิบัติการ โดยอธิบายถึงพฤติกรรมการกระทำความผิดว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้วิธี ตั้งโต๊ะเชิญชวนประชาชนตามจุดต่าง ๆ ให้มาสแกนม่านตาเพื่อแลกรับเงินเหรียญดิจิทัล โดยที่ประชาชนไม่ต้องลงทุน จากนั้นจะมีนายหน้ารับซื้อเหรียญดิจิทัลเหล่านั้นด้วยเงินสด
ทั้งนี้ผลตอบแทน ประชาชนจะได้รับเหรียญดิจิทัล 50 เหรียญต่อการสแกนม่านตา 1 ครั้ง ซึ่งสามารถแลกเป็นเงินสดได้สูงถึงเหรียญละ 30-64 บาท แต่จะถูกหักเปอร์เซ็นต์จากนายหน้าผู้รับซื้อเหรียญประมาณร้อยละ 7-8
แม้ประชาชนจะได้รับเงินโดยไม่ต้องลงทุน แต่การกระทำนี้ถือเป็นความผิดทางกฎหมายร้ายแรง เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ทำให้เข้าข่ายการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ความเสี่ยงจากการจัดเก็บม่านตา
พล.ต.ต. วิวัฒน์ ได้ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชนถึงความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุด คือการที่ข้อมูล ม่านตา (ไบโอเมตริกซ์) ถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ได้จัดเก็บโดยส่วนราชการไทย และม่านตาถือเป็น "รหัสไอดีดิจิทัล" หรือ "กุญแจเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคล" ที่ไม่ต่างจากรหัสบัตรประชาชน
ตำรวจไซเบอร์เตือนว่า การยินยอมให้ข้อมูลม่านตาถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลต่างประเทศ มีความเสี่ยงสูงที่ข้อมูลดังกล่าว จะถูกนำไปใช้แอบอ้างกระทำความผิดกฎหมายในอนาคต เนื่องจากม่านตาเป็นข้อมูลชีวภาพที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากกุญแจส่วนบุคคลนี้ตกไปอยู่ในความครอบครองของผู้อื่น การป้องกันตนเองจากความเสียหายหรือการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในโลกดิจิทัลก็จะกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก.
- ลูกค้าขอ "มาร์จิ้น" ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ "ก.ล.ต." คุมเข้มโบรกฯบริหารความเสี่ยง
- “ไชยชนก” หวั่นสแกนม่านตาล้วงข้อมูลส่วนบุคคล สั่ง สคส.ตรวจเข้มทั่วประเทศ
- "ก.ล.ต." สหรัฐฯรับลูก ยกเลิกแจ้งงบรายไตรมาส สนองนโยบาย "ทรัมป์" ทำนักลงทุนส่ายหัว
- "สแกนม่านตาแลกเงิน" รัฐบาลเตือนไม่ควร ข้อมูลเสี่ยงรั่วไหลจริงหรือ ?
- ตร.ไซเบอร์ถกนานาชาติ ปราบแก๊งคอลฯ - ไร้กัมพูชาร่วมหวั่นข้อมูลรั่ว
ที่มาข้อมูล : ตำรวจไซเบอร์
ที่มารูปภาพ : ตำรวจไซเบอร์
