
สรุปข่าว
มีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมน ในสหรัฐพบว่า ภาวะโลกร้อน ทำให้ธารน้ำแข็งบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ละลายอย่างรวดเร็ว นักวิจัยพบว่า ธารน้ำแข็งเซาท์คอล South Col บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 7,906 เมตร บางลงเกือบ 55 เมตร ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ซึ่งธารน้ำแข็งแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อตัวนานกว่า 2,000 ปี ซึ่งคำนวณแล้วเท่ากับว่า ธารน้ำแข็งนี้ละลายเร็วกว่าการสะสมตัวของน้ำแข็งถึง80 เท่า ทีมนักวิจัยยังศึกษาพบว่า ธารน้ำแข็งด้านบนที่ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ออกไป ถูกกัดเซาะไปอย่างมาก ทำให้น้ำแข็งที่อยู่ด้านล่างถูกแสงแดดมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นตัวการเร่งทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยยังระบุด้วยว่า การที่น้ำแข็งละลายเร็วมากขึ้นก็มาจากทั้ง ภาวะโลกร้อน กระแสลมที่แรงขึ้น รวมไปถึงความชื้นที่คอยควบคุมอัตราการละลายก็มีระดับที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการละลายของธารน้ำแข็งนี้ ส่งผลทำให้เกิดหิมะถล่มเกิดบ่อยขึ้นและง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้แหล่งน้ำจืด ที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คนนับพันล้านคนต้องแห้งเหือดไปด้วย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อบรรดานักปีนเขาที่ต่อไปนี้ ก็จะปีนเขาได้ลำบากขึ้น เพราะต้องเจอกับน้ำแข็งลื่นๆไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผลการวิจัยจากสหรัฐในครั้งนี้ก็เป็นหลักฐานยืนยันว่า แม้แต่ พื้นที่ที่สูงที่สุดในโลกอย่างยอดเขาเอเวอเรสตน์ก็ยังได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั่นเอง
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ พังถล่มทับหมู่บ้านในสวิตฯ
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
- เมื่อมหาสมุทรกำลังมืดลง สัญญาณเตือนวิกฤตใหม่ของโลก
- โลกร้อนเร็วเกินคาด! อุณหภูมิพุ่ง-น้ำทะเลสูง-ภัยพิบัติถี่ และกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand