ส่องนโยบายสีเขียว "สตอกโฮล์ม" เมืองหลวงประเทศสวีเดน

สตอกโฮล์ม เมืองหลวงของประเทศสวีเดน นับเป็นเมืองต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมเพราะได้รับรางวัลการันตี เป็น ‘เมืองหลวงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของยุโรป’ (European Green Capital)

เมื่อปีพ.ศ. 2553 สำหรับเมืองสตอกโฮล์มนั้นเป็นเมืองที่ให้ความสำคัญในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด รัฐบาลท้องถิ่นมีนโยบายจัดสรรงบประมาณที่ชัดเจน จริงจังและจัดการอย่างเป็นระบบ

-    เมืองหลวงของสวีเดน เน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนและให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด ในปั๊มน้ำมันของกรุงสตอกโฮล์มนั้นมีนโยบายจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบ ‘Open District Heating’ คือการนำความร้อนที่เหลือทิ้งไปทำความร้อนให้กับที่พักอาศัยของประชาชนเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ส่วนที่สถานีรถไฟยังมีระบบกักเก็บความร้อนจากตัวผู้โดยสารมาเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ความร้อนกับตัวอาคารได้ด้วย 

-    สตอกโฮล์ม เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศและนับว่ามากที่สุดในภูมิภาคสแกนดิเนเวียเลยก็ว่าได้ ถือเป็นเมืองศูนย์กลางในด้านต่างๆทั้งวัฒนธรรม สื่อ การเมืองรวมถึงด้านเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นปัญหาที่ตามมาคือ ปัญหาการจราจรติดขัด วิธีแก้ปัญหาของที่นี่คือ โครงการ ‘Green Parking Index’  เป็นโครงการลดพื้นที่จอดรถ สนับสนุนให้ประชาชนใช้รถสาธารณะกันมากขึ้น สำหรับอาคารไหนที่ไม่มีพื้นที่จอดรถก็จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าอาคารที่มีพื้นที่จอดรถ รวมถึงมีบริการแชร์รถยนต์ไฟฟ้ากับประชาชน กระตุ้นให้ประชาชนเดินทางด้วยวิธีอื่นแทนและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงโดยอัตโนมัติ ส่งผลดีต่อคุณภาพอากาศในเมืองด้วย  -    มาตรการทางภาษีก็มีความสำคัญ เพราะทางการจะลดภาษีให้กับรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด ทั้งรถที่ใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ เอทานอล และพลังงานไฟฟ้า และเก็บภาษีรถยนต์ที่ใช้พลังงานฟอสซิลในสัดส่วนที่สูงกว่า ทำให้ปริมาณการการใช้รถยนต์พลังงานสะอาดมีสัดส่วนสูงขึ้นในแต่ละปี จนไปถึงมีการตั้งเป้าในการดำเนินงานด้านพลังงานของกรุงสตอกโฮล์ม คือ ให้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มปริมาณการใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ในปีพ.ศ. 2568 และตั้งเป้าว่าในปี พ.ศ. 2593 จะยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลให้ได้ 

-    การจัดการผังเมือง ทางการมีข้อกำหนดในการจัดตั้งแหล่งธุรกิจ ที่พักอาศัย และแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมีแบบแผน ทำให้ระยะทางเฉลี่ยในการเดินทางไปทำงานของชาวเมืองแต่ละคนอยู่ที่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น โดยใน 50 เปอร์เซ็นต์ของคนทำงาน มีที่ทำงานห่างจาก บ้านเพียงไม่ถึง 5 กิโลเมตรในขณะที่เมืองก็มีการพัฒนาเส้นทางสำหรับจักรยานและทางเท้ามากขึ้นทุกปี โดยวางแผนเส้นทางสำหรับจักรยานให้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และยังมีจุดให้เช่าจักรยานกระจายอยู่ทั่วเมือง ทำให้ปัจจุบัน อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของชาวเมืองสตอกโฮล์มลดลงทุกปี ขณะที่เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้เป็นปกติ   นอกจากนี้ พลเมืองของสตอกโฮล์มเองก็มีส่วนร่วมในเมืองของตน 7 ใน 10 คน สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมและเชื่อว่าเมืองควรใช้กฎหมายที่เข้มงวดในการจัดการ 8 ใน 10 คน และพอใจกับระบบขนส่งสาธารณะและชาวสตอกโฮล์มก็เลือกที่จะ ซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่  9 ใน 10 คน เชื่อว่า กลยุทธ์ระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเมือง