
สรุปข่าว
มีผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advance พบว่า หลายประเทศในเขตร้อนชื้น เผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ และนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นก็มาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม การจราจร การเผาขยะ รวมถึงการเผาไหม้ถ่านหิน ซึ่งทำให้คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่แย่ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเมืองที่มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากปัญหามลพิษทางอากาศมากที่สุดคือ กรุงธากา เมืองหลวงของบังคลาเทศ พบผู้เสียชีวิตรวมแล้วประมาณ 24,000 ราย รองลงมาเป็นเมืองมุมไบประเทศอินเดีย กว่า 18,000 ราย ตามมาด้วยเมืองบังกาลอร์ อินเดียอีกเช่นกัน 17,500 ราย ส่วนกรุงเทพมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรแล้วกว่า 6000 ราย ซึ่งก็สอดคล้องกับผลสำรวจคุณภาพอากาศจากองค์การอนามัยโลกประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก คือ บังคลาเทศและชาด ในทวีปแอฟริกา นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก กำหนดเกณฑ์คุณภาพอากาศใหม่ คือค่าเฉลี่ยของฝุ่น PM2.5 นั้น ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อปี ดังนั้นปี 2564 ที่ผ่านมาจึงไม่มีประเทศไหนเลยที่ผ่านเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศองค์การอนามัยโลก องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ฝุ่นพิษแม้จะมีปริมาณน้อย ก็สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเราต้องช่วยกันรับมือกับปัญหานี้ เช่น ปลูกป่าเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงลดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
- วิกฤตอากาศดึงเศรษฐกิจทรุด UN ชี้ต้องลดการปล่อยคาร์บอน เศรษฐกิจโลกถึงจะฟื้น!
- “กรีซ” เข้าสู่ฤดูไฟป่า ปีนี้อาจรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เพราะภาวะโลกร้อน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand