
สรุปข่าว
สำหรับ เอลนีโญ (El Niño) คือ ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลก ในมหาสมุทรแปซิฟิกกลางและตะวันออกอุ่นผิดปกติ ทำให้ลมค้าที่เป็นลมประจำปีหรือลมภูมิภาคที่พัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกไปตะวันตกมีกำลังอ่อนกว่าปกติ น้ำทะเลที่อุ่นจึงถูกพัดไปทางชายฝั่งตะวันตกมหาสมุทรแปซิฟิกน้อยลง ส่งผลให้ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รวมถึงฝั่งเอเชียบ้านเราเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น ขณะเดียวกันลมค้าก็ไหลย้อนกลับพัดเข้าแทนที่กระแสน้ำเย็น ที่อยูทางชายฝั่งตะวันออกของมหาสมทุรแปซิฟิก ทวีปอเมริกาใต้จึงเกิดฝนตกชุก ล่าสุดที่อินโดนีเซีย เผชิญกับภัยแล้งรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะที่หมู่บ้านคารันกันยาร์ในจังหวัดชวากลาง ประสบปัญหาภัยแล้ง ชาวบ้านต้องขุดดินเพื่อหาน้ำกันแล้ว หมู่บ้านนี้มีประชากรกว่า 5,000 คน แต่ระยะ 4 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีฝนตกมาเลย สร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตร ซูนาร์ดี ชาวบ้านวัย 52 ปี บอกว่า ความแห้งแล้งในหมู่บ้านเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน และไม่มีฝนตกมาเลยจนถึงปัจจุบัน สำนักอุตุนิยมวิทยาประจำจังหวัดชวากลาง เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ส่งผลให้เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง และประชากร 63% ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทางการอินโดนีเซีย เคยเตือนประชาชนว่า ปีนี้จะต้องเผชิญฤดูแล้งที่รุนแรง และอาจเกิดไฟป่า ในช่วงเดือนกันยายน สำหรับบ้านเราปริมาณฝนในหน้าฝนนี้ก็ต่ำกว่าค่าปกติเช่นกัน มีคำเตือนให้เกษตรกรวางแผนการใช้น้ำ และเตรียมกักเก็บน้ำไว้ใช้ เพราะภัยแล้งอาจรุนแรงไปจนถึงกลางปีหน้า
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- “สเปน” เตือนภัยอากาศร้อนผิดปกติ อุณหภูมิแตะ 40 องศาฯ คาดว่าจะร้อนต่ออีก 1-2 วัน
- โลกร้อนยิ่งแห้งแล้ง “อังกฤษ” สร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ ในรอบ 30 ปี แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ
- UAE เผชิญคลื่นความร้อน อุณหภูมิพุ่ง 50.4 องศาฯ ทุบสถิติสูงสุดเดือน พ.ค.
- “ญี่ปุ่น” ยกเว้นค่าน้ำพื้นฐาน ช่วยชาวโตเกียวรับมือคลื่นความร้อน
- “ภัยแล้งหิมะ” ความเสี่ยงใหม่ในยุคโลกเดือด
- สัตว์หนีภัยโลกร้อนไม่ทัน อาจเกิดเหตุการณ์ตายหมู่ สัญญาณเตือนที่โลกไม่ควรมองข้าม
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand