
สรุปข่าว
ก๊าซมีเทนนั้นเป็นแก๊สไม่มีสี ติดไฟได้ ความเข้มข้นของมีเทนในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นเป็นผลจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่เชื่อมโยงกับการทำการเกษตร รวมถึงการปลูกข้าว เลี้ยงปศุสัตว์ การทำเหมืองแร่ถ่านหิน การผลิตและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซ การเผาไหม้ชีวมวล และการทิ้งขยะตามบ่อขยะ คาดการณ์ว่าการปล่อยก๊าซมีเทนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายในปี 2030 จนกว่าจะมีมาตรการรับมือปัญหานี้อย่างทันท่วงที นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ทั่วโลกต้องลดการปล่อยก๊าซมีเทนลงอย่างรวดเร็วให้ได้ เพราะระยะหลังมานี้ ทั่วโลกมุ่งเน้นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ผู้กำหนดนโยบายได้เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามที่เกิดจากก๊าซมีเทนมากขึ้น ก๊าซมีเทนนั้นเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มจำนวนเร็วที่สุดชนิดหนึ่งในบรรยากาศ กิจกรรมต่างๆของมนุษย์มีส่วนในการปล่อยก๊าซนี้มากทีเดียว โดยเฉลี่ยสัดส่วนการปล่อยก๊าซมีเทนทั่วโลกคิดเป็น 42% จากภาคการเกษตร 36% จากภาคอุตสาหกรรม 18% จากขยะ และ 3% จากแหล่งอื่นๆ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่าประเทศที่ปล่อยก๊าซมีเทนสูงที่สุดในโลกคือประเทศจีน โดยปล่อยก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศสูงถึง 55.7 ล้านเมตริกตันต่อปี ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกาปล่อย 31.8 ล้านเมตริกตัน อินเดีย 29.7 ล้านเมตรินตัน และตามมาด้วยรัสเซีย บราซิลและอินโดนีเซียตามลำดับ ดังนั้นการตั้งเป้าในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนลงให้ได้ 30% ก็เป็นอีกวาระสำคัญของทั่วโลกที่ต้องทำให้ได้ภายในปี 2030
- จีนประณามรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหาใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือต่อรอง
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง
- "คนจีน" ไม่กล้าใช้จ่าย 80 % หันออมเงิน แม้ดอกเบี้ยต่ำ
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand