
Better Dairy สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักรกำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมด้วยเทคโนโลยี precision fermentation เพื่อผลิตชีสและโยเกิร์ตโดยไม่ต้องพึ่งพาวัว เทคโนโลยีนี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขจัดปัญหาการปล่อยก๊าซมีเทนจากโคนม และลดการใช้ทรัพยากรอย่างที่ดินและน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตนมแบบดั้งเดิม
หัวใจของนวัตกรรมนี้คือการใช้จุลินทรีย์ที่ถูกโปรแกรมให้ผลิต เคซีน (casein) โปรตีนหลักในนมที่ทำให้ชีสมีรสชาติและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว กระบวนการนี้ช่วยให้สามารถผลิตชีสชนิดต่าง ๆ เช่น เชดดาร์ พาร์เมซาน หรือบลูชีส ได้อย่างใกล้เคียงกับชีสดั้งเดิมโดยไม่ต้องพึ่งพาสัตว์
สรุปข่าว
Better Dairy สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักรกำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมด้วยเทคโนโลยี precision fermentation เพื่อผลิตชีสและโยเกิร์ตโดยไม่ต้องพึ่งพาวัว เทคโนโลยีนี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขจัดปัญหาการปล่อยก๊าซมีเทนจากโคนม และลดการใช้ทรัพยากรอย่างที่ดินและน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตนมแบบดั้งเดิม
หัวใจของนวัตกรรมนี้คือการใช้จุลินทรีย์ที่ถูกโปรแกรมให้ผลิต เคซีน (casein) โปรตีนหลักในนมที่ทำให้ชีสมีรสชาติและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว กระบวนการนี้ช่วยให้สามารถผลิตชีสชนิดต่าง ๆ เช่น เชดดาร์ พาร์เมซาน หรือบลูชีส ได้อย่างใกล้เคียงกับชีสดั้งเดิมโดยไม่ต้องพึ่งพาสัตว์
Better Dairy ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงทางเลือกจากพืช แต่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นคู่แข่งโดยตรงกับชีสดั้งเดิม ทั้งในด้านรสชาติ การละลาย และเนื้อสัมผัส บริษัทวางแผนที่จะทำงานร่วมกับผู้ผลิตชีสรายเดิมเพื่อให้สามารถผลิตชีสไร้วัวได้ในกระบวนการที่คุ้นเคย และยังตั้งเป้าขยายการผลิตในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ในขั้นตอนเพิ่มกำลังการผลิตและขออนุมัติในตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์เคซีนจะได้รับการรับรองภายในปี 2028 นวัตกรรมนี้เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมนม และสนับสนุนระบบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
Better Dairy สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางใหม่ของอุตสาหกรรมอาหาร ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนโดยไม่ลดทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมชีสและนมทั่วโลก

TNNThailand