
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุกๆ 24 ชม.(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 19 มี.ค.-2 เม.ย.68 init. 2025031812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :
ช่วง 19-22 มี.ค.68 มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง ยังแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคอีสาน ทำให้ประเทศไทยตอนบน ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางแห่ง ลมแรงบริเวณภาคอีสาน อากาศจะเย็นลงโดยเฉพาะภาคอี่นๆ อากาศจะคลายความร้อนลงได้บ้าง
ส่วนบริเวณภาคใต้ และในอ่าวไทย จะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้าง บริเวณภาคใต้ตอนกลาง สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ต้องเฝ้าระวัง รักษาสุขภาพโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง อากาศแห้ง ลมแรง ระวังอัคคีภัย
สรุปข่าว
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุกๆ 24 ชม.(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 19 มี.ค.-2 เม.ย.68 init. 2025031812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :
ช่วง 19-22 มี.ค.68 มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง ยังแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคอีสาน ทำให้ประเทศไทยตอนบน ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บางแห่ง ลมแรงบริเวณภาคอีสาน อากาศจะเย็นลงโดยเฉพาะภาคอี่นๆ อากาศจะคลายความร้อนลงได้บ้าง
ส่วนบริเวณภาคใต้ และในอ่าวไทย จะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้าง บริเวณภาคใต้ตอนกลาง สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ต้องเฝ้าระวัง รักษาสุขภาพโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง อากาศแห้ง ลมแรง ระวังอัคคีภัย
ช่วงปลายเดือน (23 - 27 มี.ค.68) อากาศจะเริ่มกลับมาร้อนถึงร้อนจัดอีกครั้ง ลมใกล้ผิวพื้นเปลี่ยนกลับมาเป็นลมทิศใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะๆ
โดยเฉพาะช่วง 28 มี.ค.-2 เม.ย.68 จากกระแสลมฝ่ายตะวันตกที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ต้องติดตตามอย่างต่อเนื่อง
ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อน มาเร็ว แรง อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)
คาดหมายอากาศรายภาคระหว่างวันที่ 18 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 18 – 20 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 18 – 20 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. อากาศร้อนกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชมส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 – 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 18 – 20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 21 - 24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งทางตอนล่าง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 18 – 20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

TNNThailand