จับตา “จักจั่น” พันล้านตัว จ่อโผล่จากใต้ดินทั่วสหรัฐฯ กลับมาเยือนอีกครั้งในรอบ 17 ปี!

จับตา “จักจั่น” พันล้านตัว จ่อโผล่จากใต้ดินทั่วสหรัฐฯ กลับมาเยือนอีกครั้งในรอบ 17 ปี!

หลังจากซ่อนตัวอยู่ใต้ดินมายาวนานเกือบสองทศวรรษ จักจั่น "Brood XIV" กำลังจะกลับมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลินี้ โดยคาดว่าจะโผล่ขึ้นมาในหลายรัฐทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทั้งจะได้ทั้งเห็นและได้ยินเสียงดังสนั่นไปทั่วเมือง


"Brood XIV" เป็นฝูงจักจั่นตามรอบเวลาที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐฯ พวกมันจะออกจากใต้ดินทุกๆ 17 ปี โดยรุ่นล่าสุดที่เคยปรากฏให้เห็นคือเมื่อปี 2008 และในปีนี้ บรรยากาศแบบเดิมจะกลับมาอีกครั้งในช่วงกลางพฤษภาคมถึงปลายมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิของดินลึก 8 นิ้ว สูงถึงประมาณ 18 องศาเซลเซียส จักจั่นจะเริ่มขุดโพรงขึ้นจากดิน มุดออกมาและเกาะตามต้นไม้หรือรั้ว ก่อนลอกคราบเป็นตัวเต็มวัย ตัวผู้จะเริ่มร้องเสียงดังกระหึ่มเพื่อเรียกหาคู่ โดยเสียงนั้นอาจดังถึง100 เดซิเบลเทียบเท่าเสียงเครื่องตัดหญ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องบินเจ็ทที่แล่นผ่านหลังจากจับคู่และวางไข่ ตัวเต็มวัยจะตายลง ขณะที่ลูกน้อย (ตัวอ่อน) จะกลับลงไปอยู่ใต้ดินอีกครั้งเพื่อรอการโผล่ขึ้นมาในอีก 17 ปีข้างหน้าซึ่งในปีนี้ Brood XIV จะโผล่ขึ้นมาในรัฐต่อไปนี้จอร์เจีย, เคนทักกี, อินดีแอนา, แมสซาชูเซตส์, นอร์ทแคโรไลนา, นิวเจอร์ซีย์, นิวยอร์ก, โอไฮโอ, เพนซิลเวเนีย, เทนเนสซี, เวอร์จิเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย

สรุปข่าว

สหรัฐฯ เตรียมพบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 17 ปี! “จักจั่น Brood XIV”กำลังจะโผล่ขึ้นจากใต้ดินนับพันล้านตัวในหลายรัฐของสหรัฐฯ พร้อมเสียงร้องกระหึ่มดังเท่าเครื่องบินเจ็ท นักกีฏวิทยาเตือนแม้จะดูน่ากลัว แต่พวกมันไม่มีพิษภัย แถมยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศอีกด้วย

หลังจากซ่อนตัวอยู่ใต้ดินมายาวนานเกือบสองทศวรรษ จักจั่น "Brood XIV" กำลังจะกลับมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลินี้ โดยคาดว่าจะโผล่ขึ้นมาในหลายรัฐทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทั้งจะได้ทั้งเห็นและได้ยินเสียงดังสนั่นไปทั่วเมือง


"Brood XIV" เป็นฝูงจักจั่นตามรอบเวลาที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐฯ พวกมันจะออกจากใต้ดินทุกๆ 17 ปี โดยรุ่นล่าสุดที่เคยปรากฏให้เห็นคือเมื่อปี 2008 และในปีนี้ บรรยากาศแบบเดิมจะกลับมาอีกครั้งในช่วงกลางพฤษภาคมถึงปลายมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิของดินลึก 8 นิ้ว สูงถึงประมาณ 18 องศาเซลเซียส จักจั่นจะเริ่มขุดโพรงขึ้นจากดิน มุดออกมาและเกาะตามต้นไม้หรือรั้ว ก่อนลอกคราบเป็นตัวเต็มวัย ตัวผู้จะเริ่มร้องเสียงดังกระหึ่มเพื่อเรียกหาคู่ โดยเสียงนั้นอาจดังถึง100 เดซิเบลเทียบเท่าเสียงเครื่องตัดหญ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องบินเจ็ทที่แล่นผ่านหลังจากจับคู่และวางไข่ ตัวเต็มวัยจะตายลง ขณะที่ลูกน้อย (ตัวอ่อน) จะกลับลงไปอยู่ใต้ดินอีกครั้งเพื่อรอการโผล่ขึ้นมาในอีก 17 ปีข้างหน้าซึ่งในปีนี้ Brood XIV จะโผล่ขึ้นมาในรัฐต่อไปนี้จอร์เจีย, เคนทักกี, อินดีแอนา, แมสซาชูเซตส์, นอร์ทแคโรไลนา, นิวเจอร์ซีย์, นิวยอร์ก, โอไฮโอ, เพนซิลเวเนีย, เทนเนสซี, เวอร์จิเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย

แม้เสียงจะดังจนน่ารำคาญ และจำนวนที่โผล่ขึ้นมาจะนับเป็นพันล้านตัว แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าจักจั่นเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยงไม่กัด ไม่ต่อย และหากสัตว์เลี้ยงเผลอกินเข้าไป ก็ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง


แม้จักจั่นจะทำให้กิ่งไม้ของต้นไม้อ่อนบางต้นหักขาดขณะวางไข่ แต่โดยรวมแล้ว จักจั่นมีบทบาทเชิงบวกต่อระบบนิเวศ เช่นช่วยให้น้ำซึมลงดินดีขึ้นจากโพรงที่พวกมันขุดทำหน้าที่ตัดแต่งต้นไม้ตามธรรมชาติ (natural pruning)และเป็นอาหารให้สัตว์หลากหลายชนิด ซึ่งใครที่เป็นกังวลเรื่องของต้นไม้ที่เพิ่งปลูกใหม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ตาข่ายละเอียดคลุมต้นไม้เพื่อกันไม่ให้จักจั่นวางไข่ ส่วนฝูงจักจั่น Brood XIVจะกลับมาอีกครั้งในปีพ.ศ.2585 และในปี2619 นักวิทยาศาสตร์คาดว่า Brood XIV จะโผล่ขึ้นมาพร้อมกับ Brood XIX เป็นการรวมพลังของสองรุ่นในครั้งเดียว ซึ่งจะกลายเป็นปรากฏการณ์แมลงขนาดยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษเลยทีเดียว!

ที่มาข้อมูล : Accuweather

ที่มารูปภาพ : Reuters