
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) รายงานสาเหตุที่ทำให้ปี 2024 กลายเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ 175 ปี โดยความร้อนเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จากรายงานพบว่ามาจากปัจจัย คลื่นความร้อนขนาดมหึมา ครอบคลุมพื้นที่ทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกเกือบ 40 ล้านตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าออสเตรเลียถึง 5 เท่า และมากกว่าไทยถึง 78 เท่า
สรุปข่าว
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) รายงานสาเหตุที่ทำให้ปี 2024 กลายเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ 175 ปี โดยความร้อนเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จากรายงานพบว่ามาจากปัจจัย คลื่นความร้อนขนาดมหึมา ครอบคลุมพื้นที่ทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกเกือบ 40 ล้านตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าออสเตรเลียถึง 5 เท่า และมากกว่าไทยถึง 78 เท่า
ความร้อนสุดขั้วตลอดทั้งปีทำให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในหลายพื้นที่พุ่งทำลายสถิติ แนวปะการังเสียหายอย่างหนัก ด้านศาสตราจารย์เซเลสเต ซาอูโล เลขาธิการ WMO กล่าวว่า ความร้อนและภาวะความเป็นกรดของมหาสมุทรร่วมกันก่อให้เกิด “ความเสียหายอย่างยาวนาน” ต่อระบบนิเวศทางทะเลและเศรษฐกิจ พร้อมเตือนว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่อประเทศที่เป็นเกาะทั้งหมด โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำทะเลในปี 2024 สูงเกือบ 4 มิลลิเมตรต่อปี มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 3.5 มิลลิเมตรต่อปีอย่างมีนัยสำคัญ
คลื่นความร้อนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำลายสมดุลของธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนถึงสัญญาณอันตรายที่โลกไม่อาจมองข้าม
- อาร์กติกกำลังละลาย ราคาที่โลกต้องจ่าย จากอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- “สเปน” เตือนภัยอากาศร้อนผิดปกติ อุณหภูมิแตะ 40 องศาฯ คาดว่าจะร้อนต่ออีก 1-2 วัน
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
