
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 เพจขยะมรสุมได้แชร์ภาพ “มักกรทะเลสีน้ำเงิน” หรือ Blue Dragon เป็นทากทะเลชนิดหนึ่ง มีสีสันสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง จำนวน 12 ตัว ขนาดเท่าหัวเข็มหมุดบริเวณชายหาดกะรน จ.ภูเก็ต ซึ่งจุดนี้เคยมีการพบเห็นทากมังกรทะเลสีน้ำเงินมาก่อนเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2566 โดยยังไม่ทราบสาเหตุว่าเข้ามาชายฝั่งหาดกะรนได้อย่างไร เนื่องจากปกติทากมังกรทะเลสีน้ำเงินจะอาศัยอยู่กลางทะล ซึ่งอาจถูดคลื่นพัดพาเข้ามา
ข้อมูลจาก ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลระบุว่า “ทากมังกรทะเลสีน้ำเงิน” เป็นสัตว์จำพวกหอยฝาเดียว ถูกจัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ความยาวประมาณ 3 ซม. ลำตัวมีสีขาวและสีน้ำเงิน อาหารของมันคือแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรง จากนั้นจะดึงเอาเซลล์เข็มพิษมาไว้ที่ที่บริเวณปลายหนามเป็นกลไกในการป้องกันตัวเอง โดยปกติแล้วทากมังกรทะเลสีน้ำเงินจะลอยเกาะกลุ่มกันอยู่กลางมหาสมุทร แต่บางครั้งก็ถูกคลื่นลมพัดเข้ามาที่ชายฝั่งได้

สรุปข่าว
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 เพจขยะมรสุมได้แชร์ภาพ “มักกรทะเลสีน้ำเงิน” หรือ Blue Dragon เป็นทากทะเลชนิดหนึ่ง มีสีสันสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง จำนวน 12 ตัว ขนาดเท่าหัวเข็มหมุดบริเวณชายหาดกะรน จ.ภูเก็ต ซึ่งจุดนี้เคยมีการพบเห็นทากมังกรทะเลสีน้ำเงินมาก่อนเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2566 โดยยังไม่ทราบสาเหตุว่าเข้ามาชายฝั่งหาดกะรนได้อย่างไร เนื่องจากปกติทากมังกรทะเลสีน้ำเงินจะอาศัยอยู่กลางทะล ซึ่งอาจถูดคลื่นพัดพาเข้ามา
ข้อมูลจาก ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลระบุว่า “ทากมังกรทะเลสีน้ำเงิน” เป็นสัตว์จำพวกหอยฝาเดียว ถูกจัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ความยาวประมาณ 3 ซม. ลำตัวมีสีขาวและสีน้ำเงิน อาหารของมันคือแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรง จากนั้นจะดึงเอาเซลล์เข็มพิษมาไว้ที่ที่บริเวณปลายหนามเป็นกลไกในการป้องกันตัวเอง โดยปกติแล้วทากมังกรทะเลสีน้ำเงินจะลอยเกาะกลุ่มกันอยู่กลางมหาสมุทร แต่บางครั้งก็ถูกคลื่นลมพัดเข้ามาที่ชายฝั่งได้

ทากมังกรทะเลสีน้ำเงิน เป็นสัตว์ดุร้ายและมีพิษรุนแรง พร้อมโจมตีเหยื่อด้วยเข็มพิษ ซึ่งมีผลต่อระบบประสาท การทำงานของหัวใจ และเซลล์ผิวหนัง คล้ายพิษจากแมงกะพรุนไฟหมวกโปตุเกส หากสัมผัสโดนผิวหนังจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะอย่างหนัก และอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ในผู้ที่แพ้พิษรุนแรง เมื่อสัมผัสโดยควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการใช้น้ำส้มสายชูล้างบริเวณที่ถูกพิษเพื่อบรรเทาอาการ และรีบพบแพทย์โดยด่วน
- “ค้างคาว” ฮีโร่แห่งนาข้าว งานวิจัยชี้ช่วยลดศัตรูพืชได้จริง!
- โลกร้อนทำ “เลิฟบั๊ก” ระบาด จับคู่ผสมพันธุ์กลางอากาศทั่วกรุงโซล
- “นก” กว่า 500 สายพันธุ์ กำลังจะหายไปในศตวรรษนี้ และอาจพลิกระบบนิเวศทั่วโลก
- ขยะผ้าอ้อมล้นเมือง สหรัฐฯ ใช้เชื้อราช่วยย่อยสลาย
- “หิ่งห้อย” กำลังสูญพันธุ์ สัตว์เรืองแสงที่ใกล้ดับสูญ
- นักวิจัยญี่ปุ่นสุดเจ๋ง คิดค้นพลาสติกที่ละลายในทะเล
- ปลูกป่าชุมชนสระบุรี เสริมระบบนิเวศ-ดูดซับคาร์บอน
ที่มาข้อมูล : ขยะมรสุม, ฉุกเฉินการแพทย์, Thon Thamrongnawasawat
ที่มารูปภาพ : ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ จ.ภูเก็ต
