
ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียหรือ "นอร์ดิก" อย่างฟินแลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ กำลังฟื้นตัวจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงและผิดปกติในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ร้อนอย่างเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อหลบร้อนหรือ “coolcation” แต่กลับต้องเผชิญอากาศร้อนจัดเกินคาด
สถาบันอุตุนิยมวิทยาฟินแลนด์รายงานว่า ประเทศเพิ่งผ่านพ้นช่วงอากาศร้อนจัดต่อเนื่องถึง 22 วัน โดยอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ถือเป็นคลื่นความร้อนที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961 ขณะที่นอร์เวย์ก็เผชิญเดือนกรกฎาคมที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสามตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 1901 โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 2.8 องศาเซลเซียส และช่วงวันที่ 12–25 ก.ค. ยังถือเป็นช่วงคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดที่เคยมีบันทึกไว้ในประเทศ โดย “คืนร้อนทรอปิคัล” หรือคืนที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 20 องศา กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ในภูมิภาคนี้
สรุปข่าว
กลุ่มประเทศนอร์ดิกเผชิญคลื่นความร้อนผิดฤดูกาล เดือนก.ค. อุณหภูมิพุ่งเกิน 30°C หลายวันติดต่อกัน ทำลายสถิติหลายพื้นที่ นักท่องเที่ยวที่หวังหนีร้อนกลับเจออากาศร้อนจัดในฟินแลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ แม้จะอยู่ใกล้เขตอาร์กติก นักวิทยาศาสตร์ชี้ คลื่นความร้อนถี่และรุนแรงขึ้นเป็นผลชัดเจนจากภาวะโลกร้อนที่เร่งตัวทั่วโลก
ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียหรือ "นอร์ดิก" อย่างฟินแลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ กำลังฟื้นตัวจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงและผิดปกติในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ร้อนอย่างเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อหลบร้อนหรือ “coolcation” แต่กลับต้องเผชิญอากาศร้อนจัดเกินคาด
สถาบันอุตุนิยมวิทยาฟินแลนด์รายงานว่า ประเทศเพิ่งผ่านพ้นช่วงอากาศร้อนจัดต่อเนื่องถึง 22 วัน โดยอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ถือเป็นคลื่นความร้อนที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961 ขณะที่นอร์เวย์ก็เผชิญเดือนกรกฎาคมที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสามตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 1901 โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 2.8 องศาเซลเซียส และช่วงวันที่ 12–25 ก.ค. ยังถือเป็นช่วงคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดที่เคยมีบันทึกไว้ในประเทศ โดย “คืนร้อนทรอปิคัล” หรือคืนที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 20 องศา กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ในภูมิภาคนี้
นักท่องเที่ยวจำนวนมากตกใจเมื่อพบว่า “สวรรค์แห่งความเย็น” ที่คาดหวังกลับกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนอบอ้าวไม่ต่างจากบ้านเกิดของตนเอง ในเมืองทางตอนเหนือของสวีเดนอย่าง Haparanda อุณหภูมิแตะ 25°C ขึ้นไปต่อเนื่อง 14 วัน และใน Jokkmokk คลื่นความร้อนกินเวลานานกว่า 15 วัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ
ความร้อนยังสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในเมือง Rovaniemi ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ที่มีอุณหภูมิทะลุ 30°C หน่วยงานสาธารณสุขใน Joensuu ต้องเปิดลานไอซ์สเก็ตให้ประชาชนเข้ามาหลบร้อน และลดความแออัดในห้องฉุกเฉินที่มีคนป่วยจากอากาศร้อนเพิ่มขึ้น ขณะที่ในเมืองหลวงเฮลซิงกิ ร้านค้าบางแห่งถึงกับอนุญาตให้ประชาชนนอนข้างชั้นแช่เย็นเพื่อคลายร้อน
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณเตือนชัดเจนจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะในเขตอาร์กติกซึ่งได้รับผลกระทบเร็วกว่าภูมิภาคอื่นของโลก จากข้อมูลของ NOAA (องค์การมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ) พบว่า ยุโรปเป็นทวีปที่อุณหภูมิเพิ่มเร็วที่สุดต่อทศวรรษนับตั้งแต่ปี 1990 นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าคลื่นความร้อนที่เกิดซ้ำบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานขึ้น เป็นหนึ่งในผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- โลกใกล้แตะ 1.5 องศาฯ จุดเปลี่ยนสู่หายนะ แม้เดินถูกทาง แต่ยัง “ช้าเกินไป”
- ส่องจีนรับมือโลกร้อน ปฏิวัติระบบอาหาร เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสอย่างยั่งยืน
- มหาสมุทรกำลังมืดลง ภัยเงียบจากภาวะโลกร้อน และโลกใต้น้ำอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล
- โลกร้อนลามทุกมุม น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลายหนัก
- ญี่ปุ่นร้อนระอุ อุณหภูมิทะลุ 41.1 องศาฯ เกาหลีใต้ร้อนนาน 22 คืนติดในเดือนดก.ค.
- ภัยแล้งคุกคาม “ฮังการี” พื้นที่เกษตรแทบไม่เหลือน้ำ โลกร้อนบีบเกษตรกรเลิกอาชีพตัวเอง
- หลุมหลบภัยสู่ร้านหม้อไฟสุดชิค “ฉงชิ่ง” สร้างทางเลือกใหม่ รับมือคลื่นความร้อน
ที่มาข้อมูล : france24.com
ที่มารูปภาพ : Reuters
