ฤดูร้อนปี 68 ของ “สเปน” ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์!

ฤดูร้อนปี 68 ของ “สเปน”  ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์!

ฤดูร้อนปี 2568 ของ “สเปน” ถือเป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติในปี 2504 โดยประเทศเผชิญคลื่นความร้อนต่อเนื่องยาวนานกว่า 1 เดือน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นผลโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังกระตุ้นให้เกิดไฟป่ารุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีอีกด้วย

ตามข้อมูลของ “AEMET” สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัฐ สเปนระบุว่า ฤดูร้อนปีนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2534–2563 ถึง 2.1 องศาเซลเซียส และยังสูงกว่าฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดก่อนหน้าในปี 2565 อยู่ 0.1 องศาเซลเซียส

“รูเบน เดล กัมโป” โฆษกของ AEMET ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า 9 ใน 10 ฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดของสเปนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 และแนวโน้มความร้อนจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฤดูร้อนปี 2565 และ 2568 จึงเป็นตัวอย่างหรือสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจริงในช่วงกลางศตวรรษนี้ ขณะที่ฤดูร้อนปี 2568 สเปนตกอยู่ภายใต้คลื่นความร้อนหนึ่งครั้งในทุก ๆ สามวัน และเขายังระบุว่า สเปนจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับฤดูร้อนที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกัน ต้องร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สรุปข่าว

ฤดูร้อนปี 2568 ของสเปนสร้างสถิติใหม่ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติเมื่อปี 2504 และยังเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ทั่วประเทศ สะท้อนถึงผลกระทบรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โลกกำลังเผชิญ

ฤดูร้อนปี 2568 ของ “สเปน” ถือเป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติในปี 2504 โดยประเทศเผชิญคลื่นความร้อนต่อเนื่องยาวนานกว่า 1 เดือน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นผลโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังกระตุ้นให้เกิดไฟป่ารุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีอีกด้วย

ตามข้อมูลของ “AEMET” สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัฐ สเปนระบุว่า ฤดูร้อนปีนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2534–2563 ถึง 2.1 องศาเซลเซียส และยังสูงกว่าฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดก่อนหน้าในปี 2565 อยู่ 0.1 องศาเซลเซียส

“รูเบน เดล กัมโป” โฆษกของ AEMET ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า 9 ใน 10 ฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดของสเปนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 และแนวโน้มความร้อนจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฤดูร้อนปี 2565 และ 2568 จึงเป็นตัวอย่างหรือสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจริงในช่วงกลางศตวรรษนี้ ขณะที่ฤดูร้อนปี 2568 สเปนตกอยู่ภายใต้คลื่นความร้อนหนึ่งครั้งในทุก ๆ สามวัน และเขายังระบุว่า สเปนจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับฤดูร้อนที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกัน ต้องร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ข้อมูลจาก AEMET ระบุว่าสเปนเผชิญกับ คลื่นความร้อน 3 ครั้ง ครอบคลุมระยะเวลา 36 วัน ในช่วงฤดูร้อน โดยคลื่นความร้อนยาว 16 วันในเดือนสิงหาคมทำให้อุณหภูมิทางตอนใต้ของประเทศสูงเกิน 45 องศาเซลเซียส และถือเป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ความร้อนจัดไม่ได้จำกัดเฉพาะสเปนเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยฤดูร้อนปี 2567 เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดในซีกโลกเหนือ ขณะที่ฤดูร้อนปี 2568 เป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2427

ความร้อนจัดยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในยุโรป โดยข้อมูลจาก European Forest Fire Information System (EFFIS) ที่รอยเตอร์วิเคราะห์พบว่า ไฟป่าได้เผาทำลายพื้นที่รวมกว่า 6.4 ล้านไร่ทั่วสหภาพยุโรป

ในสเปน แคว้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ “กาลิเซีย” (Galicia) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ อุณหภูมิสูงกว่าค่าปกติถึง 3 องศาเซลเซียส ไฟป่ากระจายไปทั่วแคว้นและสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าไม้และที่อยู่อาศัยของประชาชน เหตุการณ์ในฤดูร้อนปี 2568 เป็นเครื่องเตือนใจถึงความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โลกกำลังเผชิญ และสะท้อนถึงความจำเป็นในการปรับตัวและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างเร่งด่วน


ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters