
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า ขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ บางวันปริมาณฝนสูงเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำขังรอการระบาย เนื่องจากศักยภาพการระบายน้ำของกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 60 - 80 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
สรุปข่าว
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า ขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ บางวันปริมาณฝนสูงเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำขังรอการระบาย เนื่องจากศักยภาพการระบายน้ำของกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 60 - 80 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับความกังวลเรื่องน้ำท่วมใหญ่ นายสุรสีห์ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีปัจจัย 3 ส่วนมาพร้อมกัน ได้แก่ น้ำเหนือที่หลากลงมากับแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านกรุงเทพฯ เกินกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ฝนตกหนัก และน้ำทะเลหนุน ปัจจุบันการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังคงอยู่ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ยังมีช่องว่างรองรับน้ำอีกมาก
เลขาธิการ สทนช. ระบุว่า การใช้ทุ่งรับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเป็นมาตรการสุดท้าย หากมีปริมาณน้ำมากจนต้องระบายที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะมีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าและจัดแผนระบายน้ำออกจากทุ่งให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
- กทม.เฝ้าระวังสูงสุด! น้ำเหนือพุ่งสูงใกล้ปี 54 ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” ยืนยันรับมือได้
- สทนช.เตรียมรับมือพายุ 1 - 2 ลูก ปลายกันยายน กระทบไทยฝนตกหนัก
- "เขื่อนเจ้าพระยา" คงการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน
- กทม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน เสริมแนวป้องกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- เตือน 11 จังหวัดภาคกลาง เตรียมรับน้ำเหนือ ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงสุด 1.1 เมตร
