ไทยตั้งเป้า “Net Zero” ใหม่ ภายในปี 2050 เร็วขึ้น 15 ปี ตอบสนองวิกฤตโลกเดือด

Share on Line Share on Facebook Share on X
ไทยตั้งเป้า “Net Zero” ใหม่ ภายในปี 2050 เร็วขึ้น 15 ปี ตอบสนองวิกฤตโลกเดือด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 (หรือปีค.ศ.2050) เร็วขึ้น 15 ปีจากกำหนดเดิม ผ่านการเสนอแผน Nationally Determined Contribution ฉบับใหม่ (NDC 3.0) อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ระหว่างการประชุม COP30 ที่ประเทศบราซิล


สำหรับเป้าหมายระยะกลาง ภายในปี พ.ศ. 2578 ประเทศไทยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (MtCO2eq) หรือคิดเป็น ร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับปีฐาน พ.ศ. 2562 โดยประเทศไทยสามารถดำเนินการลดเองได้ราว ร้อยละ 70 ส่วนที่เหลืออีก ร้อยละ 30 ต้องได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศเป็นเงินทุนสีเขียวมูลค่า 7,047 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สรุปข่าว

ประเทศไทยประกาศแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ “Net Zero” ในปี 2050 อย่างเป็นทางการในที่ประชุม COP30 ซึ่งถือว่าเร็วขึ้น 15 ปี จากกำหนดการเดิม พร้อมตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 47 ในปี 2035

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 (หรือปีค.ศ.2050) เร็วขึ้น 15 ปีจากกำหนดเดิม ผ่านการเสนอแผน Nationally Determined Contribution ฉบับใหม่ (NDC 3.0) อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ระหว่างการประชุม COP30 ที่ประเทศบราซิล


สำหรับเป้าหมายระยะกลาง ภายในปี พ.ศ. 2578 ประเทศไทยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (MtCO2eq) หรือคิดเป็น ร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับปีฐาน พ.ศ. 2562 โดยประเทศไทยสามารถดำเนินการลดเองได้ราว ร้อยละ 70 ส่วนที่เหลืออีก ร้อยละ 30 ต้องได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศเป็นเงินทุนสีเขียวมูลค่า 7,047 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังจากอัพเดทแผน NDC 3.0 อย่างเป็นทางการ คาดว่ารัฐบาลจะออกระเบียบ แผนปฏิบัติ หรือกฎหมายภายในประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 โดยเฉพาะการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ร่าง พ.ร.บ. Climate Change) ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะมีการพิจารณาได้ภายในปีนี้


ร่าง พ.ร.บ. Climate Change จะเป็นกฎหมายหลักที่เป็นศูนย์กลางในการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประกอบด้วยการบังคับรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG reporting), กลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับ เช่น ภาษีคาร์บอน, ระบบ สิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading Scheme: ETS) และการจัดตั้ง กองทุนสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ ทิศทางของนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทยว่าจะเข้มงวดหรือช้า ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการบังคับใช้ พ.ร.บ. Climate Change และระดับของการกำหนดราคาคาร์บอนในกฎหมายลูก ทั้ง ภาษีคาร์บอน และ ระบบ ETS ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายหลังจากกฎหมายหลักบังคับใช้ครบ 2 ปี

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Envato

แท็กบทความ

ก๊าซเรือนกระจกNet ZeroCOP30ก๊าซคาร์บอน
การเปลี่ยนแปลงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ