“จ๊ะ อาร์สยาม” ตาสว่างหลังเผชิญหน้าการผ่าตัด ชี้ “ความสุข” ที่แท้จริงไม่ใช่แค่เงินทอง

“จ๊ะ อาร์สยาม” ตาสว่างหลังเผชิญหน้าการผ่าตัด ชี้ “ความสุข” ที่แท้จริงไม่ใช่แค่เงินทอง

จ๊ะเล่าว่า แม้จะเป็นคนแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการผ่าตัด เธอก็มีอาการวิตกกังวลและจิตตกไม่ต่างจากคนอื่น เนื่องจากมีภาวะโรคแพนิก ทำให้ต้องรวบรวมสติอย่างหนักก่อนเข้าห้องผ่าตัด โดยพยายามขจัดความกลัวด้วยการย้อนคิดถึงความจริงที่ว่า "สุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย"

ช่วงเวลาที่อยู่บนเตียงคนไข้ ทำให้เธอได้มองย้อนกลับไปถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา ที่เคยบ้างานและบ้าเงิน จนยอมอดทน สู้ และฝืนตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้และทรัพย์สิน แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วย เธอกลับคิดได้ว่า การแก่งแย่งชิงดี การขวนขวาย และการอยากมีอยากได้ จนแทบขาดใจ เมื่อสุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องจบลงด้วย “ความตาย” อยู่ดี

การป่วยครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จ๊ะปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากที่เคยใช้ชีวิตเพื่อทำงานให้ได้เงิน แล้วถึงจะมีความสุข แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขน้อยลงเท่านั้น เพราะคำว่า “ไม่รู้จักพอ”

เธอยังฝากข้อคิดและกำลังใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าตอนนี้ใครจะเผชิญกับปัญหาอะไร ขอให้จำไว้ว่า ทั้งคนที่มีและไม่มีเงินต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักมีความสุขกับอะไรง่าย ๆ รอบตัวให้ได้ก็เพียงพอ

สรุปข่าว

จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย หรือ จ๊ะ อาร์สยาม ศิลปินและนักร้องชื่อดัง ได้ออกมาเผยเรื่องราวและข้อคิดที่ได้จากการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการผ่าตัดไซนัสที่เป็นเรื้อรังมานาน ซึ่งทำให้เธอได้ทบทวนการใช้ชีวิตที่ผ่านมา และค้นพบความหมายของ “ความสุข” ที่แท้จริง

จ๊ะเล่าว่า แม้จะเป็นคนแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการผ่าตัด เธอก็มีอาการวิตกกังวลและจิตตกไม่ต่างจากคนอื่น เนื่องจากมีภาวะโรคแพนิก ทำให้ต้องรวบรวมสติอย่างหนักก่อนเข้าห้องผ่าตัด โดยพยายามขจัดความกลัวด้วยการย้อนคิดถึงความจริงที่ว่า "สุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย"

ช่วงเวลาที่อยู่บนเตียงคนไข้ ทำให้เธอได้มองย้อนกลับไปถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา ที่เคยบ้างานและบ้าเงิน จนยอมอดทน สู้ และฝืนตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้และทรัพย์สิน แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วย เธอกลับคิดได้ว่า การแก่งแย่งชิงดี การขวนขวาย และการอยากมีอยากได้ จนแทบขาดใจ เมื่อสุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องจบลงด้วย “ความตาย” อยู่ดี

การป่วยครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จ๊ะปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากที่เคยใช้ชีวิตเพื่อทำงานให้ได้เงิน แล้วถึงจะมีความสุข แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขน้อยลงเท่านั้น เพราะคำว่า “ไม่รู้จักพอ”

เธอยังฝากข้อคิดและกำลังใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าตอนนี้ใครจะเผชิญกับปัญหาอะไร ขอให้จำไว้ว่า ทั้งคนที่มีและไม่มีเงินต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักมีความสุขกับอะไรง่าย ๆ รอบตัวให้ได้ก็เพียงพอ

ที่มาข้อมูล : FB : นงผณี มหาดไทย

ที่มารูปภาพ : FB : นงผณี มหาดไทย