ผู้ดูแลทรัพย์สิน "ไมเคิล แจ็คสัน" ชนะคดีเหนือกรมสรรพากรที่เก็บภาษีสูงเกินจริงมานานหลายปี

ศาลภาษีอากรกลางได้ทำการพิจารณาคดีที่ทางผู้ดูแลทรัพย์สินและครอบครัวของ "ไมเคิล แจ็คสัน" (Michael Jackson) ต่อสู้ในชั้นศาลมาเป็นเวลานานหลายปี โดยผู้ดูแลทรัพย์สินได้ฟ้องร้องกับทางกรมสรรพากรว่าคำนวณรายรับและทรัพย์สินของราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับเกินจริง ส่งผลให้ทางกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี "ไมเคิล แจ็คสัน" จากรายได้สมัยที่ราชาเพลงป็อปยังมีชีวิตอยู่สูงกว่าปรกติไปมาก โดยล่าสุดศาลได้ตัดสินให้ผู้ดูแลทรัพย์สินและครอบครัวของ "ไมเคิล แจ็คสัน" ชนะคดีนี้แล้ว

การเรียกเก็บภาษีเกินจริงกลายเป็นคดีความมาตั้งแต่สมัยที่ "ไมเคิล แจ็คสัน" เสียชีวิตใหม่ๆ โดยทางกรมสรรพากรเผยว่า "ไมเคิล แจ็คสัน" มีทรัพย์สินอยู่ที่ราว 482 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับมีรายได้และทรัพย์สินน้อยกว่านั้นมาก ส่งผลให้มีการจ้างนักคำนวณภาษีและการคิดรายรับที่ "ไมเคิล แจ็คสัน" ได้รับในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่กันใหม่ โดยหลังจากที่ทางผู้พิพากษา "มาร์ค โฮล์มส์" (Mark Holmes) ได้ดูตัวเลขรายรับของราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับแล้ว ผู้พิพากษาไม่เห็นด้วยกับรายรับของ "ไมเคิล แจ็คสัน" ที่ทางกรมสรรพากรคำนวณซึ่งสูงกว่าความเป็นจริงไปมาก

ทางกรมสรรพากรเผยว่า "ไมเคิล แจ็คสัน" มีรายรับในช่วง 3 ปีสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตถึง 161 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว "ไมเคิล แจ็คสัน" มีรายรับเพียงแค่ 4 ล้านหนึ่งห้าหมื่นเหรียญสหรัฐฯเท่านั้น โดยผู้พิพากษาเผยในชั้นศาลว่าในระหว่างปี 2006 ถึงปี 2008 "ไมเคิล แจ็คสัน" ไม่มีรายได้เลย ส่วนทัวร์คอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้น "ไมเคิล แจ็คสัน" ก็ไม่ได้รับค่าตัวจากโปรโมเตอร์ เนื่องจากราชาเพลงป็อปได้เสียชีวิตก่อนที่จะทัวร์คอนเสิร์ต ส่วนการคำนวณหนี้สินของ "ไมเคิล แจ็คสัน" กรมสรรพากรก็คำนวณผิดจากความเป็นจริงไปมากเพราะทางสรรพากรเผยว่า "ไมเคิล แจ็คสัน" เป็นหนี้ถึง 320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วก่อนที่จะเสียชีวิตราชาเพลงป็อปเป็นหนี้ราวๆ 107 ล้านเหรียญสหรัฐฯเท่านั้น

ไม่มีการเปิดเผยว่าผู้ดูแลทรัพย์สินของ "ไมเคิล แจ็คสัน" ได้จ่ายภาษีไปเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าที่กรมสรรพากรเรียกเก็บมาก ส่วนในตอนนี้ผู้ดูแลทรัพย์สินของราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับถือหุ้นจำนวน 50 เปอร์เซ็นของทางบริษัท "Sony/ATV Music Publishing" ที่ "ไมเคิล แจ็คสัน" ได้ซื้อไว้ก่อนเสียชีวิต รวมถึงการถือครองลิขสิทธิ์เพลงของวง "The Beatles" เป็นจำนวนถึง 175 เพลงด้วย