

สรุปข่าว
นอกเหนือจากการเดินขอบคุณแฟนบอลรอบสนามตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ยังมีการประกาศอำลาของบรรดาผู้เล่นที่จะไม่ได้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าไม่ว่าจะเป็น ฆวน มาต้า ,เนมันย่า มาติช รวมไปถึง เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งทั้ง 3 กำลังจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งนักเตะกลุ่มนี้ก็ได้มีโอกาสร่ำลาต่อหน้าสาวก "ปีศาจแดง" ใน "โรงละครแห่งความฝัน" เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวันก่อนด้วย
สำหรับผู้เล่นแมนยูฯ ที่มีข่าวว่าอาจย้ายทีมหลังจบฤดูกาลนี้มีถึง 11 รายด้วยกัน โดย 5 คนที่จะหมดสัญญา ซึ่งจาก มาต้า มาติช คาวานี่ แล้ว ยังมีอีกสองคนที่ไม่ได้ลงสนามเจอกับ เบรนท์ฟอร์ด ประกอบปอล ป็อกบา และ เจสซี ลินการ์ด ซึ่งรายหลังสุดมีรายงานว่า เอริก เทน ฮาก กุนซือคนใหม่อาจโน้มน้าวใจให้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า
และดูเหมือนว่า ฆวน มาต้า กับ เนมันย่า มาติช 2 ผู้เล่นแดนกลาง จะกลายเป็นที่อาลัยอาวรณ์ของแฟนๆ เร้ด เดวิลส์ มากที่สุด เนื่องจากทั้งคู่อยู่รับใช้ทัพ ปีศาจแดง มาอย่างยาวนาน แม้ว่าในฤดูกาลนี้โอกาสลงสนามจะน้อยลงไปตามสังขารของทั้งคู่ก็ตาม
ในช่วงท้ายเกมที่ทั้งคู่ถูกเปลี่ยนตัวออก แฟนบอลในโรงละครแห่งความฝันต่างปรบมือให้เกียรติอย่างกึกก้อง และแข้งเก๋าทั้งสองก็โบกมือสั่งลาแฟนบอลในบ้านด้วย
หลังจบเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด รังนิก ออกมาชื่นชมสองแข้งเสือเฒ่าที่โชว์ฟอร์ม เล่นให้เด็กมันดู ว่า "เราครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ ในแง่ของการครองบอลแล้ว นี่คือหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเราในฤดูกาลนี้เลย นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการโชว์ให้แฟนๆ ได้เห็น วันนี้เราใช้งาน ฆวน มาต้า กับ เนมานย่า มาติช ซึ่งมันทำให้เกมในแผงมิดฟิลด์ของเรามีคุณภาพมากขึ้น มันไม่ง่ายเลยสำหรับ เบรนท์ฟอร์ด ที่จะแย่งบอลไปจากเรา"
ที่มาภาพ : AFP
เนมานย่า มาติช เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมในประเทศบ้านเกิดอย่างโคลูบาร่า ก่อนที่จะเซ็นสัญญาย้ายไป โคชิเซ่ สโมสรสโลวาเกีย จากนั้นในปี 2009 ก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ เมื่อ เชลซี ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 1.5 ล้านปอนด์ ก่อนปล่อยให้ วิเทสส์ ยืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาลในปี 2010
จากนั้นเดือนมกราคม 2011 มาติช ถูก ขายให้กับเบนฟิก้า ด้วยค่าตัวราว 21 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเซ็นสัญญาคว้าตัว ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งในช่วงนี้เอง มาติช ได้ปรับการยืนตำแหน่งจากเพลย์เมคเกอร์มาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ พร้อมกับทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
ปี 2014 เชลซี ตัดสินใจเซ็นสัญญา มาติช กลับมาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้ง ด้วยค่าตัว 21 ล้านปอนด์ ก่อนที่อดีตเจ้านายเก่าอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ จะดึงตัวมาร่วมงานกันในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2017 แถมยังคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ไปครอง ตั้งแต่การลงเล่นเกมแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถล่ม เวสต์แฮม 4-0
มาติช ค่อยกลายเป็นกำลังหลักแดนกลางของ ยูไนเต็ด ในช่วง 3-4 ปีหลัง แต่ด้วยวัยที่ล่วงเลยไปถึง 33 ปี ทำให้โอกาสของ มาติช ลดน้อยลงเช่น แถมระยะหลังมีโอกาสน้อยมากที่จะได้เห็น มาติช ยืนอยู่ในสนามครบ 90 นาที
โดยซีซั่นนี้ มาติช ลงเล่นไป 22 เกมเป็นตัวจริง 7 เกมและสำรอง 8 เกม แถมไม่มีเกมไหนที่เจ้าตัวลงครบ 90 นาทีในซีซั่นนี้ ส่วนในระดับทีมชาตินั้น มาติช ติดทีมชาติเซอร์เบียมาตั้งแต่ปี 2008-2019 รับใช้ชาติไปทั้งสิ้น 48 นัดยิงไป 2 ประตู ในขณะที่ผลงานตลอด 5 ฤดูกาลกับ ยูไนเต็ด มาติช ลงสนามไปทั้งสิ้น 188 เกมยิงไป 4 ประตูรวมทุกรายการ
อีกหนึ่งผู้เล่นที่จะอำลาทัพ ปีศาจแดง ไปพร้อมกับ มาติช ก็คือ ฆวน มาต้า กองกลางชาวสเปนที่จะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้เช่นกัน มาต้า ทิ้งทวนได้อย่างสวยหรู แม้ว่าเพิ่งจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นเกมแรกของฤดูกาล แต่สำหรับคุณภาพของกองกลางรายนี้ มันช่างโดดเด่นเหลือเกิน เมื่ออยู่ในสนาม
การมี มาต้า ทำให้เกมของ ยูไนเต็ด ไหลลื่น โดยเกมล่าสุดที่ถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 3-0 นับเป็นเกมที่ ปีศาจแดง มีสถิติผ่านบอลมากที่สุดในซีซั่นนี้ โดยผ่านบอลไปทั้งสิ้น 710 ครั้ง โดยสถิติขิอง ฆวน มาต้า มิดฟิดล์หมายเลข 8 ในนัดอำลาแฟนๆ ณ โรงละครแห่งความฝันด้วยการเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 มีดังนี้
ผ่านบอลแม่นยำ 90 %
สัมผัสบอล 69 ครั้ง
ผ่านบอล 63 ครั้ง
ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย 20 ครั้ง
ผ่านบอลเข้ากรอบเขตโทษ 3 ครั้ง
แย่งบอลชนะ 4 ครั้ง
หลังจบเกมมีแฟนบอลเจ้าถิ่นมายืนรอนักเตะขวัญใจอยู่หน้าสนาม และหนึ่งในผู้เล่นยูไนเต็ดที่หยุดแจกลายเซ็นและถ่ายรูปกับแฟน ๆ ก็คือ ฆวน มาต้า โดยดาวเตะวัย 34 ใช้เวลาเซอร์วิสแฟนบอลอย่างเต็มที่ แม้ว่าตัวเองจะต้องยืนตากฝนก็ตาม ซึ่งจุดนี้เองทำให้แฟนบอลประทับใจในตัวเขาไปตาม ๆ กัน
ที่มาภาพ : AFP
ฆวน มาต้า เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ เรอัล โอเวียโด้ ในปี 2000 ก่อนย้ายมาเล่นกับทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด ในปี 2003 และต่อยอดขึ้นทีมชุด เบ เมื่อปี 2006 ทำผลงานเข้าตา บาเลนเซีย ก่อนถูกคว้าตัวไปทีมเมื่อปี 2007 ปีแรกกับ บาเลนเซีย มาต้า ได้รับการโหวตโดยแฟนๆ ให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี โดย มาต้า อยู่รับใช้ทัพ ค้างคาว ไปทั้งสิ้น 174 นัดยิงไป 46 ประตูรวมทุกรายการ
ปี 2011 เชลซี ประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัว มาต้า มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ โดยซีซั่นแรกของ มาต้า กับ เชลซี เจ้าตัวมีส่วนร่วมในการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร จากการโหวตจากแฟนบอล
อย่างไรก็ตามการเข้ามาคำรบที่ 2 ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2013 ทำให้ โอกาสลงสนามของ มาต้า ลดน้อยลงจนกระทั่งช่วงต้นปี 2014 เชลซี ได้ขาย มาต้า ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์
นับตั้งนั้นเป็นต้นมา มาต้า ก็ค่อยๆปรับตัว ทำงานอย่างหนัก และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมืออาชีพ มาต้า แอสซิสต์ได้ทันทีตั้งแต่เกมแรกในสีเสื้อ ปีศาจแดง และจนถึงตอนนี้ เผลอแป๊ปเดียวก็เป็นเวลายาวนานกว่า 9 ฤดูกาลแล้วที่ มาต้า เข้ามาค้าแข้งใน โรงละครแห่งความฝัน ลงสนามไปแล้วถึง 283 นัดยิงไป 51 ประตูรวมทุกรายการ
โดยในช่วงระหว่างปี 2014-2016 น่าจะเป็นช่วงที่พีคที่สุดของ มาต้า ในสีเสื้อ ปีศาจแดง โดยในฤดูกาล 2014-15 มาต้า ลงเล่นเกมลีกไปถึง 33 เกมยิงไป 9 ประตู ในขณะที่ฤดูกาลต่อมา มาต้า ลงเล่นพรีเมียร์ลีก ครบทุกเกมและยิงไปอีก 6 ประตู หลังจากนั้นโอกาสของกองกลางสแปนิชรายนี้ ก็ลดน้อยลงเรื่อยตามกาลเวลา
ส่วนในนามทีมชาติสเปน มาต้า ติดธงครั้งแรกเมื่อปี 2004 ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก่อนจะติดทัพ กระทิงดุ ต่อเนื่องมาทุกรุ่นทั้ง U17, U19, U20, U21, U23 โดย มาต้า ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2009 รับใช้ชาติไป 41 นัดยิงไป 10 ประตู
การอำลาอย่างเป็นทางการของทั้ง มาต้า และ มาติช มันน่าจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับขุมกำลังของ ปีศาจแดง ในยุค เอริค เทน ฮาก โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลาง น่ารัก น่าลุ้น เหลือเกินว่า กุนซือรายใหม่อยาก เทน ฮาก ที่จะผนึกกำลังกับ ราล์ฟ รังนิก จะดึงใครเข้ามาเป็นมิดฟิลด์รายใหม่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ท่ามกลางเงื่อนไขที่จะไม่ได้โชว์ตัวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก ในฤดูกาลหน้า
ที่มาข้อมูล : -