การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เกมนี้ไม่มีผลอะไรแล้ว หลัง ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ไปแล้วเรียบร้อย แต่ก็ยังส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเกือบเต็มพิกัด ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ไม่มีลุ้นอะไรแล้วเช่นกัน แต่กระนั้นพวกเขายังคงต้องการคะแนน เพื่อรักษาอันดับ 2 และไม่ตกไปมากกว่านี้ หลังมีหลายทีมเริ่มทำแต้มไล่จี้เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ทีมปืนใหญ่ยังมีการตั้งแถวปรบมือเพื่อเป็นเกียรติกับ ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้อีกด้วย
ครึ่งแรกเริ่มมาได้เพียง 8 นาที ลิเวอร์พูล ก็เกือบจะยิงขึ้นนำ หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้โอกาสยิงโล่งๆ กลางเขตโทษ แต่กลับยิงไปติดเซฟ ดาบิด ราย่า นายทวารทีมเยือน
หลังจากนั้นนาทีที่ 15 โอกาสเป็นของ อาร์เซน่อล บ้าง เมื่อ โธมัส ปาร์เตย์ แย่งบอลจาก เคอร์ติส โจนส์ ได้ แต่ ทรอสซาร์ ที่จะเอาบอลไปยิงดันไปขวางกันเองกับเพื่อนร่วมทีม ทำให้จังหวะสุดท้ายที่ม้วนตัวกลับมายิงติดบล็อค ไรอัน กราเฟนแบร์ค ไปเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 20 ลิเวอร์พูล ก็ออกนำไปก่อนจนได้ ในจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ทุ่มเร็วให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลทันทีไปเข้าทาง โคดี้ กัคโป โหม่งที่เสาแรกตุงตาข่าย
หลังจากนั้นอีกเพียงนาทีเดียว ทีมหงส์แดงก็มาได้ประตูที่สอง เมื่อ ซาลาห์ ได้บอลทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายทะลุให้ โดมินิก โซโบซไล สอดเข้ามาถึงบอลยิงด้วยขวาสวนตัว ราย่า และเป็น หลุยส์ ดิอาซ ที่วิ่งตามขึ้นมาเข้าไปชาร์จบอลตุงตาข่าย ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ อาร์เซน่อล อยู่ 2-0
สรุปข่าว
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เกมนี้ไม่มีผลอะไรแล้ว หลัง ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ไปแล้วเรียบร้อย แต่ก็ยังส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเกือบเต็มพิกัด ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ไม่มีลุ้นอะไรแล้วเช่นกัน แต่กระนั้นพวกเขายังคงต้องการคะแนน เพื่อรักษาอันดับ 2 และไม่ตกไปมากกว่านี้ หลังมีหลายทีมเริ่มทำแต้มไล่จี้เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ทีมปืนใหญ่ยังมีการตั้งแถวปรบมือเพื่อเป็นเกียรติกับ ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้อีกด้วย
ครึ่งแรกเริ่มมาได้เพียง 8 นาที ลิเวอร์พูล ก็เกือบจะยิงขึ้นนำ หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้โอกาสยิงโล่งๆ กลางเขตโทษ แต่กลับยิงไปติดเซฟ ดาบิด ราย่า นายทวารทีมเยือน
หลังจากนั้นนาทีที่ 15 โอกาสเป็นของ อาร์เซน่อล บ้าง เมื่อ โธมัส ปาร์เตย์ แย่งบอลจาก เคอร์ติส โจนส์ ได้ แต่ ทรอสซาร์ ที่จะเอาบอลไปยิงดันไปขวางกันเองกับเพื่อนร่วมทีม ทำให้จังหวะสุดท้ายที่ม้วนตัวกลับมายิงติดบล็อค ไรอัน กราเฟนแบร์ค ไปเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 20 ลิเวอร์พูล ก็ออกนำไปก่อนจนได้ ในจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ทุ่มเร็วให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลทันทีไปเข้าทาง โคดี้ กัคโป โหม่งที่เสาแรกตุงตาข่าย
หลังจากนั้นอีกเพียงนาทีเดียว ทีมหงส์แดงก็มาได้ประตูที่สอง เมื่อ ซาลาห์ ได้บอลทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายทะลุให้ โดมินิก โซโบซไล สอดเข้ามาถึงบอลยิงด้วยขวาสวนตัว ราย่า และเป็น หลุยส์ ดิอาซ ที่วิ่งตามขึ้นมาเข้าไปชาร์จบอลตุงตาข่าย ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ อาร์เซน่อล อยู่ 2-0
ครั้งหลัง อาร์เซน่อล เปิดฉากบุกแบบดุดันทันที และเพียงแค่นาทีที่ 47 ก็ไล่ตีไข่แตกมาเป็น 2-1 จากจังหวะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โหม่งเช็ดเสียบเสาไกลเข้าประตูไป
หลังจากนั้นทีมปืนใหญ่ก็โหมบุกอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้ลุ้นเป็นระยะ จนกระทั่งนาทีที่ 70 อาร์เซน่อล ก็ตามตีเสมอจนได้ เมื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด ได้โอกาสลองส่องไกล บอลพุ่งแรงจนทำให้ อลิสซง เบคเกอร์ ต้องออกแรงเซฟ ก่อนที่บอลจะเด้งไปเข้าทาง มิเกล เมริโน่ ที่ไม่ล้ำหน้าได้โหม่งซ้ำเข้าประตูไป
หลังตีเสมอได้ เกมเหมือนจะพลิกมาเข้าทาง อาร์เซน่อล แต่แล้วในนาทีที่ 79 ทีมเยือนก็ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เมริโน่ ไปเสียบอลในเขตโทษของตัวเอง ก่อนตามไปสกัดใส่ โซโบซไล ตรงหน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง ไล่กองกลางทีมชาติสเปนออกจากสนามทันที
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าประตูได้จากการยิงซ้ำของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แต่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ไปทำฟาวล์ใส่ ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ของ อาร์เซน่อล เสียก่อน ทำให้จังหวะนี้ไม่เป็นประตู ก่อนที่จะผู้ตัดสินจะเปjาจบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซน่อล ไปอย่างสนุก 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบคเกอร์ : คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค, เคอร์ติส โจนส์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบซไล, โคดี้ คักโป : หลุยส์ ดิอาซ
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า : เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ยาคุบ คิวิออร์, ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ : มาร์ติน โอเดอการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, มิเกล เมริโน่ : บูคาโย่ ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
ส่วนผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ ประจำวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีดังนี้
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2
- แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2
