ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25 : ไบรท์ตันยังเฉียบเปิดรังเฉือนลิเวอร์พูล 3-2

ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25 : ไบรท์ตันยังเฉียบเปิดรังเฉือนลิเวอร์พูล 3-2

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ในคืนวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไบรท์ตัน ที่ไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้ว แต่เล่นในบ้านนัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ หลังเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ไปอย่างสนุก 3-2

ไบรท์ตัน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มพิกัด แม้ว่าจะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วก็ตาม นำโดยกองหน้าอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค และตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง ยานคูบ้า มินเทห์, บรายัน กรูด้า และ ไซม่อน อาดิงกรา

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ที่นับตั้งแต่เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในวันที่ถล่ม สเปอร์ส 5-1 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนนั้น หลังจากนั้นพวกเขาไม่ชนะในลีกมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเริ่มจากบุกพ่าย เชลซี 3-1 ต่อด้วยเปิดบ้านเสมอกับ อาร์เซน่อล 2-2 นั้น ในเกมนี้ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ยังโรเตชั่นเพียบเหมือนเดิม เมื่อส่งนักเตะสำรองอย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, คอสตาส ซิมิคาส, จาเรลล์ ควอนซาห์ และ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ลงเป็นตัวจริง

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้ 9 นาที ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ พาบอลลุยขึ้นทางด้านขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แปเน้นๆ ตุงตาข่าย

อย่างไรก็ตาม แม้จะโดนนำไปก่อน แต่เกมของ ไบรท์ตัน ก็ไม่เป็นรอง นาทีที่ 29 พวกเขาเกือบจะตีเสมอได้ เมื่อ ไซม่อน อาดิงกรา เปิดบอลจากกราบซ้ายไปให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้โหม่งกดลงพื้่น แต่บอลหลุดกรอบไปแค่นิดเดียว

สรุปข่าว

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ในคืนวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไบรท์ตัน ที่ไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้ว แต่เล่นในบ้านนัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ หลังเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ไปอย่างสนุก 3-2

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ในคืนวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไบรท์ตัน ที่ไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้ว แต่เล่นในบ้านนัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ หลังเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ไปอย่างสนุก 3-2

ไบรท์ตัน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มพิกัด แม้ว่าจะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วก็ตาม นำโดยกองหน้าอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค และตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง ยานคูบ้า มินเทห์, บรายัน กรูด้า และ ไซม่อน อาดิงกรา

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ที่นับตั้งแต่เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในวันที่ถล่ม สเปอร์ส 5-1 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนนั้น หลังจากนั้นพวกเขาไม่ชนะในลีกมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเริ่มจากบุกพ่าย เชลซี 3-1 ต่อด้วยเปิดบ้านเสมอกับ อาร์เซน่อล 2-2 นั้น ในเกมนี้ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ยังโรเตชั่นเพียบเหมือนเดิม เมื่อส่งนักเตะสำรองอย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, คอสตาส ซิมิคาส, จาเรลล์ ควอนซาห์ และ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ลงเป็นตัวจริง

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้ 9 นาที ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ พาบอลลุยขึ้นทางด้านขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แปเน้นๆ ตุงตาข่าย

อย่างไรก็ตาม แม้จะโดนนำไปก่อน แต่เกมของ ไบรท์ตัน ก็ไม่เป็นรอง นาทีที่ 29 พวกเขาเกือบจะตีเสมอได้ เมื่อ ไซม่อน อาดิงกรา เปิดบอลจากกราบซ้ายไปให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้โหม่งกดลงพื้่น แต่บอลหลุดกรอบไปแค่นิดเดียว

แต่กระนั้นอีกเพียง 3 นาทีต่อมา ไบรท์ตัน ก็ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 จากจังหวะที่ บรายัน กรูด้า เพลย์เมคเกอร์ของทีมเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ยาซิน อายารี่ สอดเข้ายิงผ่านมือ อลิสซง เบคเกอร์ เข้าประตูไป

อย่างไรก็ดี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำอีกครั้งจากลูกฟรีคิกที่ เอลเลียตต์ เขี่ยให้ โดมินิก โซโบซไล ยิงเข้าเสาไกลไปอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้จบครึ่งแรก ไบรท์ตัน ตามหลัง ลิเวอร์พูล 1-2

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึง 10 นาที ลิเวอร์พูล เกือบจะยิงประตูที่ 3 ได้จากจังหวะการเล่นเกมโต้กลับ เมื่อ โคดี้ คักโป กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงโล่งๆ แต่กลับแปบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ 

หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างเปิดเกมแลกกัน นาทีที่ 59 ไบรท์ตัน เกือบจะตีเสมอได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ กรูด้า ตอกลูกส้นให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้ยิงแถวๆ จุดโทษ แต่ติดเซฟของ อลิสซง

จากนั้นนาทีที่ 67 ลิเวอร์พูล เกือบจะยิงเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ พาบอลเข้ามาในเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ ซาลาห์ ได้ยิงจ่อๆ แต่ยังไม่ผ่านมือ บาร์ท แฟร์บรุกเก้น นายทวารเจ้าถิ่น

จนกระทั่งนาทีที่ 69 ไบรท์ตัน ก็ตามตีเสมอจนได้ เมื่อ คาโอรุ มิโตมะ ปีกทีมชาติญี่ปุ่นที่ลงมาเป็นตัวสำรองจ่ายบอลให้ เวลเบ็ค ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟ แต่บอลกระเด้งกลับมาเข้าทาง มิโตมะ วอลเลย์เข้าเสาแรกไปอย่างแม่นยำ ทำให้ ไบรท์ตัน ตีเสมอเป็น 2-2

ก่อนที่ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 ไบรท์ตัน จะมาได้ประตูชัย จากจังหวะที่ แม็ตต์ โอไรลี่ย์ เปิดบอลจากกราบซ้ายไปที่กลางประตูให้ แจ็ค ฮินเชลวู้ด ได้แปจ่อๆ ตุงตาข่าย แม้ว่าตอนแรกจะถูกตัดสินว่าล้ำหน้า แต่วีเออาร์เช็คแล้วให้เป็นประตู ทำให้ ไบรท์ตัน พลิกกลับมาชนะได้อย่างสนุก 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนน พร้อมกับขยับขึ้นมารั้งอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง ส่วน ลิเวอร์พูล แพ้เป็นนัดที่ 4 ในฤดูกาลนี้

ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม

ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรุ๊กเก้น : มัตส์ วีฟเฟอร์, ยาน พอล ฟาน เฮคเค่, อดัม เว็บส์เตอร์, เปร์วิส เอสตูปิญัน : คาร์ลอส บาเลบา, ยาซิน อายารี่ : ยานคูบา มินเทห์, บรายัน กรูด้า, ไซม่อน อาดิงกรา : แดนนี่ เวลเบ็ค

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบคเกอร์ : คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, จาเรลล์ ควอนซาห์, คอสตาส ซิมิคาส : ไรอัน กราเฟนแบร์ค, โดมินิก โซโบซไล : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, โคดี้ คักโป : เฟเดริโก้ เคียซ่า

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : AFP