
เตือนระวัง "โรคลมร้อน" หรือ "ฮีทสโตรก" เปิดสถิติปี 2567 มีผู้เสียชีวิตถึง 63 ราย เปิด 4 วิธีป้องกัน
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา รัฐบาลออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังภาวะ "โรคลมร้อน" หรือ "ฮีทสโตรก" (Heatstroke) ซึ่งเกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส จนทำให้เกิดอาการตัวร้อน หน้ามืด กระสับกระส่าย หายใจเร็ว และในบางกรณีอาจถึงขั้นหมดสติหรือเสียชีวิตได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคลมร้อน
การทำงานกลางแจ้งในช่วงที่อุณหภูมิสูง เช่น เดือนเมษายน ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคลมร้อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ นอกจากนี้ การดื่มสุราในสภาพอากาศร้อนยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยจากโรคลมร้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูง
สรุปข่าว
เตือนระวัง "โรคลมร้อน" หรือ "ฮีทสโตรก" เปิดสถิติปี 2567 มีผู้เสียชีวิตถึง 63 ราย เปิด 4 วิธีป้องกัน
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา รัฐบาลออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังภาวะ "โรคลมร้อน" หรือ "ฮีทสโตรก" (Heatstroke) ซึ่งเกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส จนทำให้เกิดอาการตัวร้อน หน้ามืด กระสับกระส่าย หายใจเร็ว และในบางกรณีอาจถึงขั้นหมดสติหรือเสียชีวิตได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคลมร้อน
การทำงานกลางแจ้งในช่วงที่อุณหภูมิสูง เช่น เดือนเมษายน ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคลมร้อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ นอกจากนี้ การดื่มสุราในสภาพอากาศร้อนยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยจากโรคลมร้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูง
การป้องกันโรคลมร้อน (ฮีทสโตรก)
1. หลีกเลี่ยงการทำงานกลางแดดโดยตรง: หากเป็นไปได้ ควรเข้าพักในที่ร่มหรือที่มีลมเย็นบ่อย ๆ
2. สวมเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน: เพื่อลดการดูดซับความร้อน
3. ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ: ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันการขาดน้ำ
4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงจากการเกิดฮีทสโตรก
สถิติการเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อนในปี 2567 : จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนถึง 63 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชายและมีโรคประจำตัว ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดถึง 54%
ข้อแนะนำจากรัฐบาล : กรมควบคุมโรคได้ขอเตือนประชาชนในช่วงฤดูร้อนให้ระมัดระวังโรคลมร้อน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือมีโรคประจำตัว พร้อมทั้งขอให้ทุกคนมีการดูแลตัวเองในช่วงอากาศร้อน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต.
- UAE เผชิญคลื่นความร้อน อุณหภูมิพุ่ง 50.4 องศาฯ ทุบสถิติสูงสุดเดือน พ.ค.
- “ญี่ปุ่น” ยกเว้นค่าน้ำพื้นฐาน ช่วยชาวโตเกียวรับมือคลื่นความร้อน
- “เท็กซัส” ร้อนจัด ทั้งที่ยังไม่เข้าฤดูร้อน ชาวเมืองบ่นอุบเหมือนอยู่ในเตาอบ
- นักวิทยาศาสตร์ชี้ เม.ย.2025 ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 สะท้อนปัญหาโลกร้อนที่ไม่ถูกแก้ไข
- อากาศร้อนจัด! เปิด 10 อันดับ สภาพอากาศ "อุณหภูมิสูงสุด" แตะ 38.7 องศาฯ
- คลื่นร้อนถล่มอินเดีย–ปากีสถาน พุ่งแตะ 50°C นักวิทย์เตือน “นี่คือความปกติใหม่”
- อาการฮีทสโตรก! ตัวร้อนจัด พูดไม่รู้เรื่อง จะเป็นลม ภัยเงียบอันตรายจากความร้อน
ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย
ที่มารูปภาพ : Getty Images
