
โครงการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนจากสหภาพยุโรป เปิดเผยรายงานที่พบว่าเดือนเมษายน ปีนี้ เป็นเดือนเมษายนที่อากาศทั่วโลกร้อนที่สุดทำสถิติเป็นอันดับ 2 โดยเดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็นเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุด และปีนี้ ร้อนเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งอุณหภูมิเดือนเมษายนของปีนี้ มีอุณหภูมิสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ถึง 1.51 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าระดับ 1.5 องศาเซลเซียส ที่ทั่วโลกพยายามจะป้องกันไม่ให้สูงเกิน
นอกจากนี้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ยในเดือนเมษายนของปีนี้ ยังสูงเป็นอันดับ 2 เช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่ผ่าน ๆ มา โดยต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนเมษายนปีที่แล้ว แค่ 0.15 องศาเซลเซียส
สรุปข่าว
โครงการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนจากสหภาพยุโรป เปิดเผยรายงานที่พบว่าเดือนเมษายน ปีนี้ เป็นเดือนเมษายนที่อากาศทั่วโลกร้อนที่สุดทำสถิติเป็นอันดับ 2 โดยเดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็นเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุด และปีนี้ ร้อนเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งอุณหภูมิเดือนเมษายนของปีนี้ มีอุณหภูมิสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ถึง 1.51 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าระดับ 1.5 องศาเซลเซียส ที่ทั่วโลกพยายามจะป้องกันไม่ให้สูงเกิน
นอกจากนี้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ยในเดือนเมษายนของปีนี้ ยังสูงเป็นอันดับ 2 เช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่ผ่าน ๆ มา โดยต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนเมษายนปีที่แล้ว แค่ 0.15 องศาเซลเซียส
ในส่วนของน้ำแข็งทะเล รายงานระบุว่า ในเดือนเมษายนปีนี้ น้ำแข็งทะเลอาร์กติกมีปริมาณน้อยที่สุดเป็นอันดับ 6 ขณะที่น้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกมีปริมาณน้อยเป็นอันดับ 10 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีก่อน ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอัตราการละลายของน้ำแข็งที่เพิ่มสูงขึ้นในระดับที่น่ากังวล นอกจากนี้ ยังพบว่าในหลายประเทศของยุโรป มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออกที่อากาศอบอุ่นเร็วขึ้นกว่าปกติ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าวิกฤตโลกร้อนยังคงเป็นภัยคุกคามที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด