แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้มาจากหลายปัจจัย ทั้งความพยายาม ดวง และมุมมองความคิด ซึ่งในโลกออนไลน์มีการแชร์ ทฤษฎีการ Manifest พูดง่ายๆว่า การควบคุมความคิดให้ไปในทางที่อยากให้เป็น สิ่งที่อยากทำให้สำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้จริง
สรุปข่าว
แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้มาจากหลายปัจจัย ทั้งความพยายาม ดวง และมุมมองความคิด ซึ่งในโลกออนไลน์มีการแชร์ ทฤษฎีการ Manifest พูดง่ายๆว่า การควบคุมความคิดให้ไปในทางที่อยากให้เป็น สิ่งที่อยากทำให้สำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้จริง
แค่คิดบวกก็ประสบความสำเร็จ ได้จริงหรือ?
ตามหลักการของทฤษฎี Manifest ว่ากันว่า พลังจิต หรือความคิดของเรานี้แหละที่เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด มีผลต่อการกระทบการกระทำ และสามารถขับเคลื่อนชีวิตเราให้เป็นไปไหนทางไหนก็ได้ ตามที่เราคิด
สำหรับบางคนแล้วการจะประสบความสำเร็จ หรือตั้งใจทำอะไรบางอย่างในชีวิต ดูเหมือนเป็นเรื่องเหนือจินตนาการ ไม่มีทางเป็นได้จริง แต่สำหรับคนที่รู้พลังของการ Manifest แค่เพียงตั้งสมาธิ และคิดบวก หากเราคิดในสิ่งที่ดี ก็จะดึงดูดสิ่งที่ดีๆ เข้ามาหาเราได้
Manifest อาจเรียกง่ายๆ เป็นกฎของแรงดึงดูดในจักรวาลนั่นเอง
ทำให้ฝันเป็นจริง
อยากที่บอกว่า Manifest ใช้พลังของจิตใจเพื่อดึงดูดหรือสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ มักจะสอดคล้องกับหลักการของกฎแห่งแรงดึงดูด (law of attraction) ซึ่งจะเน้นความสำคัญของความชัดเจนในการตั้งเป้าหมาย การคิดในแง่บวก และการรักษาความเชื่อในความเป็นไปได้ที่จะบรรลุความปรารถนาของตัวเอง
แม้จะฟังอยู่เป็นเรื่องนามธรรม แต่ก็มีคนดังอย่าง โอปาห์ วินฟรีย์ และอินฟลูอินเซอร์อีกหลายคนที่บอกว่า Manifest เปลี่ยนชีวิตได้จริงๆ แล้วพวกเขาทำได้อย่างไร?
1. ลองนึกถึงสิ่งที่คุณอยากเห็น อยากประสบ อยากรู้ หรืออาจจะอยากเป็น
พยายามมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญและมีความหมายสำหรับคุณและเป็นสิ่งที่คุณปรารถนาอย่างแรงกล้า อาจเป็นชีวิตในฝันของคุณ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น หรือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งเน้นไปที่สิ่งนี้ตอนนี้ ความชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ ใช้จินตนาการของคุณเพื่อ "เห็น" ภาพที่สมบูรณ์แบบของการมีสิ่งนี้
2. ใช้เวลาสักครู่เพื่อคิดว่าความปรารถนานี้มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกถึงอารมณ์ที่มาพร้อมกับความปรารถนานี้ ความปรารถนานี้รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่? ถ้าไม่ ให้หามุมมองที่กระตุ้นความกระตือรือร้น การจินตนาการที่เติมพลังและขยายความรู้สึกจะน่าดึงดูดและมีพลังมากกว่า ซึ่งช่วยเรื่องแรงจูงใจและการลงมือทำ
3. มุ่งหาสิ่งที่ต้องการ
ให้มุ่งความสนใจอย่างจริงจังไปหาสิ่งนั้นที่ต้องการให้สำเร็จ เห็นภาพของความสำเร็จนั้นในใจอย่างชัดเจน
4. สังเกตความรู้สึกต่างๆ
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณปรารถนาที่จะมีสุขภาพดีและแข็งแรง และคุณกำลังจินตนาการว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณจินตนาการถึงสิ่งนี้? ไตร่ตรองและอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้น ปล่อยให้ความรู้สึกนี้เติมเต็มร่างกายทั้งหมดของคุณ
Dorothy Ratusny นักจิตบำบัด กล่าวว่า ทั้ง 4 ข้อนี้คือการผสมผสานระหว่างความชัดเจน เจตนา และความลึกซึ้งทางความรู้สึก ที่จะสร้างรากฐานของการขับเคลื่อนความปรารถนาหรือความต้องของคุณให้กลายเป็นความจริง
ที่มาข้อมูล : Insight Timer : Unveiling Timeless Secrets to Manifestation
ที่มารูปภาพ : Canva
