ไทรอยด์ กับความเครียด ความสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

ไทรอยด์ กับความเครียด ความสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

นพ. ชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อศูนย์เบาหวานต่อมไร้ท่อและควบคุมน้ำหนัก รพ.วิมุต จะมาชวนรู้จัก และเข้าใจความสัมพันธ์ของไทรอยด์กับความเครียด ในยุคที่ทุกคนต้องเผชิญกับความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบจนไม่มีเวลาพักผ่อน ความเจ็บป่วยไม่สบายหลายอย่างมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงผลจากความเหนื่อยล้าแต่จริงๆแล้วหลายคนอาจไม่รู้ว่า "ต่อมไทรอยด์" และ "ความเครียด" ส่งผลกระทบต่อกันและกันอย่างลึกซึ้งซึ่งหากไม่ได้พบแพทย์ เราอาจตกอยู่ในวงจรการเจ็บป่วยอย่างไม่สิ้นสุด

รู้จัก “ต่อมไทรอยด์”ผู้คุมเสบียงพลังงานของร่างกาย

ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) เป็นต่อมไร้ท่อขนาดเล็กที่บริเวณลำคอด้านหน้าทำหน้าที่สร้างและหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์

นพ. ชาญวัฒน์อธิบายว่า "หลายคนอาจไม่ทราบว่า ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเมตาบอลิซึมหรือการเผาผลาญพลังงานของร่างกายการเจริญเติบโตและพัฒนาการการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงการทำงานของกล้ามเนื้อระบบย่อยอาหารและระบบประสาท"เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจอย่างชัดเจนในกรณีของภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism) หรือไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปผู้ป่วยมักมีอาการกระสับกระส่ายวิตกกังวลหงุดหงิดนอนไม่หลับในทางตรงกันข้ามภาวะไฮโปไทรอยด์(Hypothyroidism) หรือไทรอยด์ต่ำซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายคิดช้า และเซื่องซึม

นอกจากการทำงานที่ผิดปกติแล้ว ยังมีกลุ่มความผิดปกติของก้อนหรือรูปร่างต่อมไทรอยด์ซึ่งมีทั้งภาวะคอพอก (Goiter) ซึ่งต่อมไทรอยด์โตโดยอาจทำงานปกติหรือผิดปกติก็ได้,ก้อนต่อมไทรอยด์ (Thyroid Nodule) ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นมะเร็งแต่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและมะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer) โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งไทรอยด์ชนิดพาพิลลารี(Papillary)

สรุปข่าว

เนื่องในโอกาส “วันไทรอยด์โลก”นพ. ชาญวัฒน์ชวนตันติกมลอายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อศูนย์เบาหวานต่อมไร้ท่อและควบคุมน้ำหนักรพ.วิมุตจะมาชวนรู้จักและเข้าใจความสัมพันธ์ของไทรอยด์กับความเครียดพร้อมแนะนำวิธีสังเกตอาการผิดปกติ เพื่อให้เรารีบพบแพทย์และรักษาโรคไทรอยด์ให้คุณภาพชีวิตกลับมาดีได้เหมือนเดิม

นพ. ชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อศูนย์เบาหวานต่อมไร้ท่อและควบคุมน้ำหนัก รพ.วิมุต จะมาชวนรู้จัก และเข้าใจความสัมพันธ์ของไทรอยด์กับความเครียด ในยุคที่ทุกคนต้องเผชิญกับความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบจนไม่มีเวลาพักผ่อน ความเจ็บป่วยไม่สบายหลายอย่างมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงผลจากความเหนื่อยล้าแต่จริงๆแล้วหลายคนอาจไม่รู้ว่า "ต่อมไทรอยด์" และ "ความเครียด" ส่งผลกระทบต่อกันและกันอย่างลึกซึ้งซึ่งหากไม่ได้พบแพทย์ เราอาจตกอยู่ในวงจรการเจ็บป่วยอย่างไม่สิ้นสุด

รู้จัก “ต่อมไทรอยด์”ผู้คุมเสบียงพลังงานของร่างกาย

ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) เป็นต่อมไร้ท่อขนาดเล็กที่บริเวณลำคอด้านหน้าทำหน้าที่สร้างและหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์

นพ. ชาญวัฒน์อธิบายว่า "หลายคนอาจไม่ทราบว่า ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเมตาบอลิซึมหรือการเผาผลาญพลังงานของร่างกายการเจริญเติบโตและพัฒนาการการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงการทำงานของกล้ามเนื้อระบบย่อยอาหารและระบบประสาท"เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจอย่างชัดเจนในกรณีของภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism) หรือไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปผู้ป่วยมักมีอาการกระสับกระส่ายวิตกกังวลหงุดหงิดนอนไม่หลับในทางตรงกันข้ามภาวะไฮโปไทรอยด์(Hypothyroidism) หรือไทรอยด์ต่ำซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายคิดช้า และเซื่องซึม

นอกจากการทำงานที่ผิดปกติแล้ว ยังมีกลุ่มความผิดปกติของก้อนหรือรูปร่างต่อมไทรอยด์ซึ่งมีทั้งภาวะคอพอก (Goiter) ซึ่งต่อมไทรอยด์โตโดยอาจทำงานปกติหรือผิดปกติก็ได้,ก้อนต่อมไทรอยด์ (Thyroid Nodule) ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นมะเร็งแต่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและมะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer) โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งไทรอยด์ชนิดพาพิลลารี(Papillary)

พาส่อง “ความเครียดและไทรอยด์”วงจรอันตรายที่มองไม่เห็น

นพ. ชาญวัฒน์ชี้ว่า "ความเครียดเรื้อรังมีผลต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อทุกชนิดรวมถึงไทรอยด์เมื่อเกิดความเครียดเรื้อรังร่างกายจะกระตุ้นระบบHPA Axis ให้ทำงานมากขึ้นส่งผลให้มีการหลั่งคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดมากผิดปกติซึ่งจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานลดลงและกระทบการทำงานของต่อมไร้ท่อรวมถึงไทรอยด์นอกจากนี้ความเครียดยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองเช่นโรคเกรฟส์(ไทรอยด์เป็นพิษ)และโรคฮาชิโมโตะ(ไทรอยด์ต่ำ)เนื่องจากความเครียดเรื้อรังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและสร้างแอนติบอดีที่ไปกระตุ้นหรือทำลายต่อมไทรอยด์”

ในทางกลับกันการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดความเครียดหรือภาวะซึมเศร้าได้เช่นกันภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวลกระสับกระส่ายนอนไม่หลับใจสั่นพฤติกรรมหุนหันและบางรายอาจถึงขั้นวิตกกังวลรุนแรงหรือมีภาวะตื่นตระหนก (Panic Attack) ส่วนภาวะไฮโปไทรอยด์สามารถทำให้เฉื่อยชาเบื่อหน่ายชีวิตสมาธิสั้นความจำไม่ดีซึ่งมีอาการคล้ายโรคซึมเศร้าจึงเห็นได้ชัดว่าทั้งความเครียดและไทรอยด์ผิดปกตินั้น ส่งผลกระทบซึ่งกันและกันสร้างเป็นวงจรที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม

เปิดสัญญาณเตือนความเครียดที่อาจเกี่ยวข้องกับไทรอยด์ผิดปกติ

สัญญาณที่อาจบ่งชี้ความผิดปกติของไทรอยด์ที่มากับอาการเครียดได้แก่ ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษมักจะกระสับกระส่ายวิตกกังวลนอนไม่หลับหงุดหงิดง่ายร่วมกับอาการทางกายเช่นใจสั่นมือสั่นเหงื่อออกมากน้ำหนักลดผิดปกติในทางตรงกันข้ามผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำจะมีอาการซึมเศร้าเหนื่อยล้าความคิดช้าขี้ลืมน้ำหนักเพิ่มง่ายผิวแห้งและท้องผูกเรื้อรัง"หากพบอาการเหล่านี้พร้อมกันโดยเฉพาะเมื่อเป็นอาการใหม่ที่เรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการพักผ่อนหรือการจัดการความเครียดแบบทั่วไปควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์" นพ. ชาญวัฒน์แนะนำ

“เหตุที่ทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์จนกระทั่งอาการรุนแรงขึ้นเป็นเพราะอาการเริ่มต้นของโรคมักคล้ายกับความเครียดทั่วไปโรคไทรอยด์ส่วนใหญ่จะพัฒนาอย่างช้าๆทำให้ผู้ป่วยเคยชินกับความผิดปกติในบางกรณีผลตรวจอาจดูปกติทำให้การวินิจฉัยทำได้ยากผู้ป่วยอาจได้รับการรักษาตามอาการแทนการตรวจคัดกรองฮอร์โมนต่อมไร้ท่อจึงทำให้โรคไทรอยด์ดำเนินต่อไปจนมีอาการรุนแรง” นพ. ชาญวัฒน์ อธิบาย

โรคไทรอยด์หายขาดได้ไหมป้องกันอย่างไร? 

นพ. ชาญวัฒน์เผยว่าโรคไทรอยด์มีแนวทางการรักษาแตกต่างกันตามชนิดของโรคบางชนิดรักษาให้หายขาดได้เช่นไทรอยด์

เป็นพิษที่รักษาด้วยการกลืนแร่หรือผ่าตัดแต่บางชนิดต้องรักษาด้วยยาตลอดชีวิตเช่นไทรอยด์ต่ำจากโรคฮาชิโมโตะทั้งนี้ทุกกรณีควรได้รับการวางแผนการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางต่อมไร้ท่อและติดตามผลอย่างสม่ำเสมอหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาโรคไทรอยด์จะลุกลามสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษอาจทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือเส้นเลือดสมองตีบเกิดโรคกระดูกพรุนเพราะไทรอยด์เร่งการสลายกระดูกหรือในกรณีร้ายแรงอาจเกิดภาวะไทรอยด์วิกฤติ (Thyroid Storm) ที่อันตรายถึงชีวิตส่วนภาวะไทรอยด์ต่ำที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะโคม่าไทรอยด์หัวใจเต้นช้าผิดปกติภาวะมีบุตรยากระดับไขมันในเลือดสูงและภาวะซึมเศร้าเรื้อรังพร้อมสมองเสื่อมก่อนวัยภาวะเหล่านี้ทำให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมากและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร”

เราป้องกันโรคไทรอยด์ได้ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบคุณค่าทางโภชนาการพร้อมบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมการนอนหลับให้เพียงพอวันละ6-8ชั่วโมงการออกกำลังกายเป็นประจำการงดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันและฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุลที่สำคัญคือควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของน้ำหนักอารมณ์และระดับพลังงานพร้อมตรวจสุขภาพประจำปีและแจ้งประวัติหากมีคนในครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์ "การดูแลสุขภาพไทรอยด์และจัดการความเครียดต้องทำควบคู่กันอย่ามองว่าการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา คอยจับสัญญาณเตือนจากร่างกาย รีบพบแพทย์และรีบหันมาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว" นพ. ชาญวัฒน์ชวนตันติกมลกล่าวทิ้งท้าย