"ก้อนหินสีเทา" เทคนิคการสื่อสาร รับมือกับคนนิสัยเป็นพิษ

"ก้อนหินสีเทา" เทคนิคการสื่อสาร รับมือกับคนนิสัยเป็นพิษ

ในชีวิตของเราต้องพบเจอกับคนมากมาย มีทั้งคนที่เข้ากันได้ ในขณะที่บางคนก็มีพฤติกรรมของการทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือมีนิสัยเป็นพิษ อยู่ใกล้แล้วทั้งเหนื่อยและอึดอัดใจ แต่จะให้เลี่ยงก็ทำไม่ได้ มีคนนำเสนอ Grey Rock Method หรือ เทคนิคก้อนหินสีเทา ซึ่งเป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่จะทำให้เรารับมือกับคนเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องสุขภาพจิตของตัวเองได้


สรุปข่าว

เทคนิคก้อนหินสีเทา หรือ Grey Rock Method เป็นหนึ่งในทฤษฎีการสื่อสารทางจิตวิทยา เมื่อเราต้องรับมือกับคนที่มีนิสัยเป็นพิษ หรือ คนที่เป็นโรคหลงตัวเอง

ในชีวิตของเราต้องพบเจอกับคนมากมาย มีทั้งคนที่เข้ากันได้ ในขณะที่บางคนก็มีพฤติกรรมของการทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือมีนิสัยเป็นพิษ อยู่ใกล้แล้วทั้งเหนื่อยและอึดอัดใจ แต่จะให้เลี่ยงก็ทำไม่ได้ มีคนนำเสนอ Grey Rock Method หรือ เทคนิคก้อนหินสีเทา ซึ่งเป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่จะทำให้เรารับมือกับคนเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องสุขภาพจิตของตัวเองได้


"ก้อนหินสีเทา" คืออะไร

เทคนิคก้อนหินสีเทา หรือ Grey Rock Method เป็นหนึ่งในทฤษฎีการสื่อสารทางจิตวิทยา เมื่อเราต้องรับมือกับคนที่มีนิสัยเป็นพิษ คนที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่น หรือ คนที่เป็นโรคหลงตัวเอง ซึ่งเป็นโรคทางบุคลิคภาพผิดปกติชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยมักจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง จนสร้างความอึดอัดใจ ลำบากใจ และความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ให้กับคนรอบข้าง

ดังนั้น ก้อนหินสีเทา จึงเป็นการเลียนแบบก้อนหินที่ไม่มีชีวิต ไม่แสดงพฤติกรรมตอบสนอง หรือไม่แสดงความสนใจอย่างจงใจต่อคนที่มีนิสัยเป็นพิษ อีกทางหนึ่งก็คือการขีดเส้นแบ่งอย่างชัดเจน ไม่ให้พวกเขาเข้ามาเกินขอบเขตที่เรากำหนด เมื่อแสดงการนิ่งเฉย พวกเขาก็จะเสียความสนใจและไม่รบกวนเราอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม การใช้วิธี ก้อนหินสีเทา ไม่เท่ากับการแสดงออกโดยไม่ให้เกียรติ คุณยังสามารถพูดคุยกับคนนั้นๆ ได้เท่าที่จำเป็น แต่เป็นวิธีที่ช่วยให้เราสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ตัวเอง ป้องกันการถูกบุคคลเหล่านี้ทำร้าย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม




อยากเป็น "ก้อนหินสีเทา" ต้องทำอย่างไร?

1. อย่าไปบอกว่าเราทำอะไรอยู่

ถ้าเราไม่รู้เรื่องการกำหนดขอบเขตหรือไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร เริ่มต้นที่ไม่ต้องไปอธิบายให้มากความว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ป่วยการที่จะไปอธิบายให้คนที่ไม่สนใจจะฟังเรื่องของคนอื่น เพราะหมกหมุ่นแต่กับการเอาความคิดและความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้ง แถมการเอาข้อมูลของเราไปป้อนให้กับคนเป็นพิษรับรู้ ไม่ต่างอะไรกับการมอบดาบที่พวกเขาจะสามารถเอามาแทงเราได้ทีหลัง 

2. เลี่ยงการสบตา

ความสำคัญของการสบตาระหว่างการสื่อสาร คือการให้ความสำคัญกับคนที่กำลังพูดตรงหน้าเรา ตรงกันข้าม เมื่อเราจำเป็นต้องพูดคุยกับคนที่เป็นพิษจริงๆ วิธีการหลีกเลี่ยงการสบตา คือการส่งสัญญาณว่า เราไม่ได้อยากต่อความยาวสาวความยืดกับพวเขมากมาย หรือเราไม่ได้สนใจอยากจะพูดคุยกับคนประเภทนี้

3. ทำตัวเป็นหุ่นยนต์

ฝึกไม่แสดงอารมณ์ ใช้ภาษากายแบบเฉยๆ เซ็งๆ ราวกับว่าเราไม่มีความรู้สึกอะไรเลย คิดซะว่าเตัวเองเป็น NPC ในเกมที่มีแค่คำตอบเดิมๆ ก็ได้

4. อย่าเผยเรื่องราวส่วนตัว

คล้ายกับข้อ1 เมื่อเป็นคนที่เราไม่สนิทใจที่จะพูดคุย ก็ไม่ควรบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวให้คนเหล่านี้รับรู้ โดยเฉพาะเรื่องคนในครอบครัว หรือเรื่องของเราที่มีแต่คนสนิทรับรู้ เพราะจะกลายเป็นอาวุธทำร้ายเราได้ อย่าบอกว่าเราอยู่ไหน ไปเที่ยวไหน รู้จักกับใครบ้าง ง่ายๆ คือ พูดคุยแค่เรื่องทีจำเป็นต้องคุยเพียงเท่านั้น

5. คุยให้สั้น ให้จบเร็ว

เวลาจำเป็นต้องคุย เช่น เรื่องงาน หรือเรื่องที่ต้องจัดการร่วมกัน ให้จบให้เร็วที่สุด ตอบสั้นๆ และจบการสนทนาทันทีที่ทำธุระเสร็จ ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ในเรื่องที่นอกเหนือจากเรื่องที่จำเป็นต้องสนทนา

6. ไม่ตอบโต้ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล

คนที่มีบุคลิกทำร้ายคนอื่น มีลักษณะเด่นคือ ใช้ความรู้สึกหรือความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้งเมื่อต้องตัดสินเรื่องต่างๆ หลายครั้งคุณพบว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายสิ่งที่เป็นเหตุผลให้คนเหล่านี้เข้าใจ พูดง่ายๆคือ พวกเขามักจะใช้อารมณ์ความรู้สึกของตัวเองอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง ดังนั้น เมื่อคิดว่าเหตุการณ์อาจนำไปสู่การปะทะทางอารมณ์ งดโต้ตอบ เงียบหรือเดินหนีเลยจะดีที่สุด เพราะแม้คุณจะพยายามอธิบายด้วยเหตุผล คนพวกนี้ไม่พร้อมจะทำความเข้าใจ พาลจะทำให้เราเสียสุขภาพจิตได้ง่ายๆ

ที่มาข้อมูล : psychcentral, health.clevelandclinic

ที่มารูปภาพ : canva