
การนอนเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพดี เมื่อการนอนถูกรบกวนจึงอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้ หนึ่งในปัญหาของคู่รักสามีภรรยาที่ต้องนอนร่วมเตียง คือพฤติกรรมการนอนของฝ่ายที่อาจไม่แมชต์กัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจึงนำเสนอทางออกของปัญหานี้ ด้วย วิธีการนอนแบบสแกนดิเนวีย (scandinavian sleep method) หรือ การนอนแบบแยกผ้าห่ม
สรุปข่าว
การนอนเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพดี เมื่อการนอนถูกรบกวนจึงอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้ หนึ่งในปัญหาของคู่รักสามีภรรยาที่ต้องนอนร่วมเตียง คือพฤติกรรมการนอนของฝ่ายที่อาจไม่แมชต์กัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจึงนำเสนอทางออกของปัญหานี้ ด้วย วิธีการนอนแบบสแกนดิเนวีย (scandinavian sleep method) หรือ การนอนแบบแยกผ้าห่ม
วิธีการนอนแบบสแกนดิเนเวียคืออะไร?
โจเซฟ เอ็ม. เดเซียร์เซฟสกี ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนของสหรัฐฯ กล่าวว่า ช่วงเวลาของการนอน เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่คู่รักได้ใกล้ชิดสัมผัสกัน แต่ไม่ใช่กับทุกคู่ โดยเฉพาะในคู่ที่มีพฤติกรรมการนอนที่แตกต่างกัน
พฤติกรรมการนอนที่ต่างกัน เช่น ความชอบเครื่องนองต่างกัน เข้านอนไม่พร้อมกันทุกคืน หรือแม้แต่นิสัยชอบนอนดิ้น หรือถีบผ้าห่ม ล้วนแต่เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นบนเตียงนอน ที่อาจทำให้ขาเตียงคู่รักร้าวจนหย่าร้าง ได้เลยทีเดียว
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ การแยกผ้าห่มนอน จะช่วยทำให้คู่รักสามารถรักษาพื้นที่ส่วนตัว โดยที่ยังสามารถร่วมเตียงเดียวกัน การนอนแบบ 1 เตียง ผ้าห่ม 2 ผืนนี้ เรียกว่า วิธีการนอนแบบสแกนดิเนเวีย
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการนอนข้างคู่รัก มีผลในเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและกายโดยรวม ตามรายงานของ NSF การสัมผัสทางกายภาพระหว่างการนอนหลับเชื่อมโยงกับการหลั่งออกซิโตซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยสร้างความผูกพัน ส่งเสริมความไว้วางใจ และลดระดับความเครียด
WebMD คู่รักที่นอนข้างกันอาจมีจังหวะการเต้นของหัวใจที่ประสานกัน และมีการนอนหลับ REM มากขึ้น
ประโยชน์ของวิธีการนอนแบบสแกนดิเนเวีย
1. ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
อุณหภูมิมีผลอย่างมากต่อการนอนหลับ โดยอุณหภูมิเย็น เฉลี่ย 18-22 องศาฯ ช่วยให้คุณหลับและคงอยู่ในสภาวะหลับได้ ตามการศึกษาต่างๆ เมื่อคู่รักมีผ้านวมแยกส่วนตัว คู่นอนแต่ละคนจะสามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายของตัวเองได้ดีขึ้น มากกว่าการนอนเบียดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
2. การนอนหลับถูกรบกวนน้อยลง
ผลสำรวจในปี 2020 บอกว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 35% เผยว่า ตัวเองไม่ได้นอนหลับเพียงพอ หรือน้อยกว่า 7 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคที่แต่งงานแล้ว และนอนแชร์ผ้าห่มผืนเดียวกันกับคู่แต่งงาน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ระบุว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงของดรคซึมเศร้า ความวิตกกังวล โรคหัวใจ และโรคอ้วน การนอนแยกผ้าห่มช่วยให้การนอนไม่ถูกรบกวน หลับลึกและหลับสนิทมากขึ้น
3. กระชับความสัมพันธ์
การนอนแยกผ้าห่มช่วยสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้แต่ละฝ่าย ลดโอกาสเกิดความไม่เข้าใจหรือไม่พอใจที่อาจจะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการนอนที่ไม่ตรงกันได้