ชานมไข่มุก กินมากเกินไป เสี่ยงสะสมสารตะกั่ว อันตรายต่อร่างกาย

ชานมไข่มุก กินมากเกินไป เสี่ยงสะสมสารตะกั่ว อันตรายต่อร่างกาย

ชานมไข่มุก หรือ Bubble tea มีต้นกำเนิดจากไต้หวันในช่วงปี 1980 โดยส่วนผสมหลักดั้งเดิม คือชา นม หรือนมเทียม น้ำตาล และที่ขาดไม่ได้คือไข่มุก ที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ 

ชานมไข่มุกได้รับความนิยมไปทั่วโลก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเครื่อมดื่มของคนรุ่นใหม่ ตามที่จะเห็นภาพชานมไข่มุกยี่ห้อดังมากๆ ในแก้วน่ารัก ชวนให้ต้องเก็บภาพลงโซเซียล จนกลายครั้งกลายเป็นไวรัส แต่เราต้องกลับมาคิดกันอีกครั้ง หากจะคิดว่าเครื่องดื่มนี้ไม่ส่งผลใดๆ ต่อสุขภาพเลย โดยรายงานจาก Consumer Reports ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ ชี้ว่า มีสิ่งน่ากังวลเกี่ยวกับชานมไข่มุก ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

สรุปข่าว

งานวิจัยพบอันตรายที่ซ่อนในชานมไข่มุกที่คุณอาจไม่เคยรู้ กินเยอะ เสี่ยงสะสมสารตะกั่วในร่างกาย

ชานมไข่มุก หรือ Bubble tea มีต้นกำเนิดจากไต้หวันในช่วงปี 1980 โดยส่วนผสมหลักดั้งเดิม คือชา นม หรือนมเทียม น้ำตาล และที่ขาดไม่ได้คือไข่มุก ที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ 

ชานมไข่มุกได้รับความนิยมไปทั่วโลก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเครื่อมดื่มของคนรุ่นใหม่ ตามที่จะเห็นภาพชานมไข่มุกยี่ห้อดังมากๆ ในแก้วน่ารัก ชวนให้ต้องเก็บภาพลงโซเซียล จนกลายครั้งกลายเป็นไวรัส แต่เราต้องกลับมาคิดกันอีกครั้ง หากจะคิดว่าเครื่องดื่มนี้ไม่ส่งผลใดๆ ต่อสุขภาพเลย โดยรายงานจาก Consumer Reports ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ ชี้ว่า มีสิ่งน่ากังวลเกี่ยวกับชานมไข่มุก ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ตามสูตรดั้งเดิม ไข่มุก ในแก้วชานมไข่มุก จะทำให้จากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชหัวที่มีรายงานว่าอาจมีสารตะกั่วปนเปื้อน โดยในหลายพื้นที่ทั่วโลกมีการปนเปื้อนของตะกั่วในดินสูง พืชผักและผลไม้ที่ปลูกในดินเหล่านี้มักดูดซับโลหะหนักเข้าไป เครื่องดื่มชานมไข่มุกที่ไม่ไดมาตรฐาน หรือ ไม่มีการตรวจรับรองความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ อาจมีส่วนผสมที่ปนเปื้อนสารตะกั่วนี้

สุ่มตรวจสอบตัวอย่างชานมไข่มุก

การทดสอบไข่มุกจากร้านชานมชื่อดัง 2 แห่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์บรรจุถุงที่เป็นตัวแทนรับผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กับร้านชื่อดัง พบว่า ทุกตัวอย่างมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่ ในระดับมากหรือน้อยแตกต่างกัน แต่สิ่งที่โล่งใจคือ ระดับตะกั่วที่พบ ยังไม่เกินเกณฑ์ที่ส่งผลต่อสุขภาพ ตามที่ Consumer Reports กำหนดไว้ และไม่พบสารหนู แคดเมียม หรือปรอทในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใน 1 หน่วยบริโภค

แต่หากบริโภคเยอะ จะอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่

เจมส์ อี. โรเจอร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและทดสอบความปลอดภัยด้านอาหารของ  Consumer Reports ชี้ว่า ระดับสารปนเปื้อนไม่ได้สูงถึงขั้นที่ต้องแนะนำให้เลิกดื่มชานมไข่มุกโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม แม้การศึกษานี้จะยังไม่ได้ตรวจตัวอย่างจากชานมในตลาดทั้งหมด แต่การที่ตัวอย่างไข่มุก 3 ใน 4 มีระดับตะกั่วเกินกว่าครึ่งของค่าที่น่ากังวลใน 1 หน่วยบริโภค ดั้งนั้น จึงควรดื่มเป็นครั้งคราว ไม่ใช่ดื่มเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดการสะสมของสารเหล่านี้ในร่างกาย

ในบรรดาผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังชนิดอื่นที่ตรวจสอบ เช่น แป้งมันสำปะหลัง ขนมขบเคี้ยว ช็อกโกแลตเข้ม และอาหารทารก พบว่ามีระดับตะกั่วเกินกว่าค่าที่ปลอดภัย ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว ชานมไข่มุกอาจไม่เป็นอันตรายเท่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้น แต่ก็ควรตระหนักว่าการได้รับตะกั่วไม่ว่าปริมาณเท่าใดก็ถือว่าไม่ปลอดภัย

สารตะกั่วจากธรรมชาติหลีกเลี่ยงยาก แต่ลดได้

การหลีกเลี่ยงการได้รับตะกั่วโดยสิ้นเชิงเป็นเรื่องยาก เพราะตะกั่วพบได้ในอาหาร น้ำดื่ม ดิน และบ้านเรือนหลายแห่ง โดยความเสี่ยงต่อสุขภาพมักเกิดจากการได้รับตะกั่วสะสมเป็นเวลานาน แม้จะเป็นปริมาณเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่ทราบว่ามีตะกั่วปนเปื้อนให้มากที่สุด

ที่มาข้อมูล : nypost.com

ที่มารูปภาพ : CANVA