
ยิ่งนานวัน ความเครียดก็ยิ่งสะสมมากขึ้น หาทางผ่อนคลายก็ลำบาก ความเครียดทางจิตใจ ความไม่พอใจ ความไม่แน่ใจ ความตกใจ หรือกังวลใจล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นความเครียดให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะมีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย เช่น โรคความดันโลหิต ภาวะไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและยังมีผลต่อสุขภาพสมอง
โดยการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ความเครียดทำให้สมรรถภาพความจำลดลง เพราะการถดถอยของใยเซลล์ประสาทภายในสมองนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถผ่อนคลายจากอาการเครียดที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องได้ เซลล์สมองส่วนที่ช่วยในการจดจำก็จะกลับมาทำงานเป็นปกตินั่นเอง
ผลวิจัยโดยศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เผยว่า คนที่มีความเครียด รู้สึกกระวนกระวาย วิตกกังวล มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่เครียดน้อยถึง 27 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการติดตามผลต่อเนื่องตลอด 14 ปี เพื่อศึกษาความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เพราะความเครียดยังทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตที่สูงขึ้นนี้ อาจไปทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว เกิดภาวะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจ นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจวายได้ในที่สุด และเมื่อศึกษาลงถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและโรคหัวใจ พบว่าอายุมากขึ้นความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและโรคหัวใจก็ยิ่งสูงขึ้น
สรุปข่าว
ยิ่งนานวัน ความเครียดก็ยิ่งสะสมมากขึ้น หาทางผ่อนคลายก็ลำบาก ความเครียดทางจิตใจ ความไม่พอใจ ความไม่แน่ใจ ความตกใจ หรือกังวลใจล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นความเครียดให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะมีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย เช่น โรคความดันโลหิต ภาวะไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและยังมีผลต่อสุขภาพสมอง
โดยการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ความเครียดทำให้สมรรถภาพความจำลดลง เพราะการถดถอยของใยเซลล์ประสาทภายในสมองนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากเราสามารถผ่อนคลายจากอาการเครียดที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องได้ เซลล์สมองส่วนที่ช่วยในการจดจำก็จะกลับมาทำงานเป็นปกตินั่นเอง
ผลวิจัยโดยศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เผยว่า คนที่มีความเครียด รู้สึกกระวนกระวาย วิตกกังวล มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่เครียดน้อยถึง 27 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการติดตามผลต่อเนื่องตลอด 14 ปี เพื่อศึกษาความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เพราะความเครียดยังทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตที่สูงขึ้นนี้ อาจไปทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว เกิดภาวะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจ นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจวายได้ในที่สุด และเมื่อศึกษาลงถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและโรคหัวใจ พบว่าอายุมากขึ้นความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและโรคหัวใจก็ยิ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ในการศึกษาของทางประเทศแคนาดา ยังพบว่าผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ และสามารถจัดการอารมณ์ความเครียดของตนเองได้ดี จะทำให้มีอายุยืนยาวกว่า 10 ปี เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่สามารถจัดการความเครียดของตนเองได้
แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าร่างกายเกิดความเครียด

วิธีจัดการความเครียดแบบง่ายๆ ทำได้ทันที
- ท่องเที่ยว ชอปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย เล่นกีฬา
- พักผ่อนให้เพียงพอ ใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทที่คอยให้กำลังใจได้ตลอดเวลา
- เป็น "โรคหัวใจ" ดื่มน้ำอย่างไรดี? ข้อควรรู้เพื่ออายุยืนยาว
- ระวัง! 5 โรคเรื้อรังของผู้สูงวัย ที่อาจนำไปสู่การเกิด “โรคหัวใจ” ได้
- ปั่นจักรยานอาจช่วยป้องกันคุณจากโรคสมองเสื่อมได้ วิจัยชี้
- อยากฟิตแค่ไหน ก็ต้องเช็คหัวใจ! อย่าให้การออกกำลังกายกลายเป็นความเสี่ยง
- ข่าวดี! ผู้ป่วยโรคหัวใจผ่าตัด ฟรี! กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (season 3) ลงทะเบียนรับเพียง 5 ท่านเท่านั้น
ที่มาข้อมูล : มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ที่มารูปภาพ : Envato ,มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
