
เพจ Tensia ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนบนเฟสบุ๊คโพสต์ให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เผยข้อมูลเกี่ยวกับกับเรื่องการออกกำลังกายที่ช่วยให้หัวใจแข็งแรง โดยระบุว่า
ออกกำลังกาย ฝึกให้หัวใจแข็งแรงมาก จนเต้นเกือบช้า เพื่อ ‘ชาร์จเติมเลือดแล้วบีบออกไปได้แรงขึ้น’ (Frank-Starling) การันตีว่าช่วงเกิดโรคร้ายแรง หัวใจแบกเรารอดได้แน่นอน
ถ้าไปดูคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะพบว่าชีพจรมักจะเต้นอยู่ในช่วงเกือบๆ ช้า เช่น 60-70 ครั้ง/นาที
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า ระบบประสาทส่วนกลาง ‘ไว้วางใจ’ ว่า หัวใจของเขาแข็งแรงมากพอ จึงเพิ่มวงจร ‘ชะลอหัวใจ’ (Vagal tone) ที่คุมระบบไฟฟ้า ให้ลดอัตราการเต้นลง
สรุปข่าว
เพจ Tensia ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนบนเฟสบุ๊คโพสต์ให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เผยข้อมูลเกี่ยวกับกับเรื่องการออกกำลังกายที่ช่วยให้หัวใจแข็งแรง โดยระบุว่า
ออกกำลังกาย ฝึกให้หัวใจแข็งแรงมาก จนเต้นเกือบช้า เพื่อ ‘ชาร์จเติมเลือดแล้วบีบออกไปได้แรงขึ้น’ (Frank-Starling) การันตีว่าช่วงเกิดโรคร้ายแรง หัวใจแบกเรารอดได้แน่นอน
ถ้าไปดูคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะพบว่าชีพจรมักจะเต้นอยู่ในช่วงเกือบๆ ช้า เช่น 60-70 ครั้ง/นาที
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า ระบบประสาทส่วนกลาง ‘ไว้วางใจ’ ว่า หัวใจของเขาแข็งแรงมากพอ จึงเพิ่มวงจร ‘ชะลอหัวใจ’ (Vagal tone) ที่คุมระบบไฟฟ้า ให้ลดอัตราการเต้นลง
เพื่อให้ในช่วงที่หัวใจคลายตัวรับเลือด (Diastole) มีมากขึ้น เติมเลือดได้มากขึ้น ซึ่งเลือดที่เข้ามาเยอะนั้น จะยืดผนังหัวใจ แล้วกระตุ้นกลไก ‘ชาร์จพลัง’ (Frank-Starling) ให้หดสู้กลับด้วยแรงสูงกว่าปกติ
นั่นจึงทำให้หัวใจที่แข็งแรงไม่ใช่บีบแรงด้วยตัวมันเองเท่านั้น แต่ยังเสริมด้วยกลไกชาร์จพลังอีกด้วย
และเมื่อหัวใจมีระบบกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นขนาดนี้ ก็ต้องมีระบบลำเลียงเลือดที่ดีด้วยจริงมั้ยคะ
นั่นแหละค่ะ การออกกำลังกายก็ตามไปช่วยต่อ เพราะเหล่าฮอร์โมนที่ปล่อยมาจากกล้ามเนื้อ เช่น Irisin, lactate, myonectin ออกมากระตุ้นให้
ระบบเผาผลาญไขมันดีขึ้นมาก: เพิ่มเอนไซม์สลายกรดไขมัน, เพิ่มจำนวนและคุณภาพของไมโตคอนเดรีย
ระบบหลอดเลือดฝอยหนาแน่นขึ้นมาก: เพราะมีการเพิ่มก๊าซไนตริกออกไซด์ที่ช่วยเร่งการสร้างหลอดเลือด
ความคงทนต่อภาวะวิกฤติ: เพิ่มโปรตีนต่างๆ ที่ทำให้ทนต่อภาวะขาดออกซิเจน และต้านการทำลายตัวเอง (Antiapoptotic protein) เพื่อให้เวลาขาดเลือด ไม่ถอดใจตๅยไปเสียก่อน
เพิ่มระบบต่อต้านอักเสบ/อนุมูลอิสระ: การันตีว่า ช่วงที่หัวใจแย่มากๆ ได้เลือดมาน้อยมากๆ ไม่เกิดการอักเสบ มาซ้ำให้แย่ลงไปอีก
ผลสุดท้ายคืออะไร?
เราก็ได้หัวใจที่เจอสารพัดภาวะวิกฤติ ยังคงบีบได้แรงพอ ที่จะพยุงความดัน พยุงระบบไหลเวียนไว้ได้
และยังได้หัวใจที่มีระบบลำเลียงเลือด การบริหารจัดการพลังงาน ได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ได้เลือดน้อยๆ
และสุดท้ายได้หัวใจที่เซลล์ตๅยยากขึ้น ซื้อเวลาให้เรามาถึง รพ. เพื่อรักษาทัน ซื้อเวลาให้ทีมแพทย์ช่วยเรา และลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นแทบทุกภาวะ โดยเฉพาะหัวใจล้มเหลวน้ำท่วมปอด ที่มักจะเกิดตามมาจากหัวใจขาดเลือด
นี่คือรางวัลของคนดูแลสุขภาพที่ควรได้รับ
มันตรงไปตรงมาค่ะ ธรรมชาติตอบสนองต่อคนที่ซ้อมมันอยู่เป็นประจำ สอนหัวใจให้รู้ว่า stress เป็นแบบนี้นะ อ่ะ ปรับตัวซะ
เพื่อให้หัวใจเราแบกชีวิตเราไปอย่างปลอดภัยไม่ว่าอนาคตจะเจอเหตุร้ายอะไร อย่างน้อยระบบหมุนเวียนเลือดก็พร้อมจะสู้แล้วค่ะ
ที่มาข้อมูล : Facebook: Tensia
ที่มารูปภาพ : CANVA
