
ทีมวิจัยศิริราชพบ กรุ๊ปเลือดลูกผสม ที่หายากมากที่สุดกรุ๊ปหนึ่ง ในตัวอย่างครึ่งล้าน พบเพียงแค่ 3 คน
การศึกษาเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใจความซับซ้อนของกรุ๊ปเลือดมากขึ้น จากเดิม ที่การตรวจเลือดทั่วไปที่พบกรุ๊ปใหญ่ๆ อย่าง A, B, O,และ AB แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีกรุ๊ปเลือดอีกมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ
สรุปข่าว
ทีมวิจัยศิริราชพบ กรุ๊ปเลือดลูกผสม ที่หายากมากที่สุดกรุ๊ปหนึ่ง ในตัวอย่างครึ่งล้าน พบเพียงแค่ 3 คน
การศึกษาเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใจความซับซ้อนของกรุ๊ปเลือดมากขึ้น จากเดิม ที่การตรวจเลือดทั่วไปที่พบกรุ๊ปใหญ่ๆ อย่าง A, B, O,และ AB แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีกรุ๊ปเลือดอีกมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ
กรุ๊ปเลือดที่พบในปัจจุบัน
ปัจจุบัน กรุ๊ปเลือถูกจัดออกเป็น 8 กลุ่มหลักๆ ตามโครงสร้างของน้ำตาลและโปรตีนบนผิวเม็ดเลือดแดง โดย A, B และ AB ถูกกำหนดตามรูปร่างของแอนติเจน ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ส่วน O คือกลุ่มที่ไม่มีแอนติเจน A หรือ B
ขณะที่กรุ๊ปเลือด Rh เป็นโปรตีนที่กำหนดความเข้ากันได้ของเลือด และเป็นที่มาของเครื่องหมายบวกหรือลบ
แต่ละกรุ๊ปเลือด จะมีเครื่องหมายระดับโมเลกุลที่ร่างกายเรียนรู้ว่าเป็น “ของตัวเอง” ระบบภูมิคุ้มกันใช้ข้อมูลนี้ในการแยกแยะว่าเลือดแบบไหนเข้ากับเรา และแบบไหนถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม หากภูมิคุ้มกันพบเลือดที่มีเครื่องหมายไม่คุ้น อาจปล่อยแอนติบอดีทำลายเลือดนั้นได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการระบุกรุ๊ปเลือดจึงสำคัญต่อการให้เลือด เพราะการรับเลือดผิดถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม กรุ๊ปเลือด มีความหลากหลายมากกว่า 8 กลุ่มพื้นฐาน หนึ่งในความหลากหลาย ก็คือ กรุ๊ปเลือด B(A) ซึ่งโดยหลักเป็นเลือดกรุ๊ป B แต่กลับเกิดการกลายพันธุ์ที่ทำให้เอนไซม์สร้างลักษณะคล้ายกับ A ออกมา แม้มีอยู่เล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นปัญหาได้ หากมีการตรวจเลือดผิดขึ้นมา
ปกติแล้ว การตรวจเลือดดู 2 อย่างหลักๆ คือ แอนติเจนบนเม็ดเลือดแดง และแอนติบอดีในพลาสมา
ทั้ง 2 ส่วนสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้ผู้รับเลือดป่วยจากความไม่เข้ากันของกรุ๊ปเลือด แต่ความซับซ้อนคือ บางครั้งผลจากเม็ดเลือดแดงและพลาสมากลับไม่ตรงกัน กลายเป็นภาวะที่เรียกว่า “ABO Discrepancy” หรือ ความไม่สอดคล้องกันของผลการตรวจหมู่เลือด ABO
การค้นพบเลือดกรุ๊ปใหม่
ผศ.ดร.พญ. เจนจิรา กิตติวรภัทร ภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมมือกับทีมนักวิจัยจากศิริราช ตรวจตัวอย่างเลือดผู้บริจาค 285,450 ราย และตัวอย่างจากผู้ป่วย 258,780 ราย รวมทั้งสิ้น 544,230 ตัวอย่าง โดยเก็บข้อมูลอยู่กว่า 8 ปี
ในตัวอย่าง พบว่ามีเพียง 396 ตัวอย่าง หรือ 0.15 เปอร์เซ็นต์ที่มี ABO discrepancy และครึ่งหนึ่งต้องตัดออก เพราะเป็นผู้ที่ได้รับปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ซึ่งกรุ๊ปเลือดอาจเปลี่ยนชั่วคราวตามผู้บริจาค ทำให้เหลือตัวอย่างที่มีปัญหาอยู่ 198 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่เกิดจากเม็ดเลือดแดงไม่แสดงแอนติเจน A หรือ B ชัดเจน
โดยพบเพียงหนึ่งรายเท่านั้นที่มีเลือด B(A) และพบผู้บริจาคเพียง 2 รายที่มีเลือด B(A) ทำให้จากตัวอย่าง 500,000 คน เพียง 3 คนเท่านั้นที่มีเลือดกรุ๊ป B(A)
แม้กรุ๊ปลือดนี้จะพบได้น้อยมาก แต่งานวิจัยชี้ว่าอาจยังมีรูปแบบกรุ๊ปเลือดแปลกใหม่อื่นๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจพันธุกรรมในกรณีที่ผลตรวจแบบมาตรฐานให้คำตอบไม่ชัดเจน การศึกษาในอนาคตจำเป็นต่อการทำความเข้าใจผลต่อโครงสร้างและหน้าที่ของเอนไซม์ AB transferase ที่กลายพันธุ์นี้
สำหรับกลุ่มคนที่มีกรุ๊ปเลือดหายาก เมื่อแพทย์ตรวจพบ จะแนะนำให้พวกเขาเก็บเลือดตัวเองไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นคลังเลือดเก็บไว้ใช้เมื่อตอนเกิดเหตุฉุกเฉิน
- ศิริราชทำสำเร็จสร้าง CAR T-Cell ได้เอง รักษามะเร็งเลือด ทดแทนคีโม มุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ
- ญี่ปุ่นคิดค้นเลือดเทียม ใช้ได้กับทุกกรุ๊ปเลือด เก็บได้นานถึง 2 ปี
- วิจัยสมองคนขับแท็กซี่ลอนดอน พบความจำดี เตรียมใช้ข้อมูลพัฒนา AI นำทาง
- วิจัยเผยความลับ “ขนหมีขั้วโลก” ฝ่าความหนาวเย็นได้อย่างไร
- สัญญาณเตือน! เลือดสำรองคงคลังเริ่มขาดแคลนทั่วประเทศ วอน คนสุขภาพดีบริจาคช่วยผู้ป่วย
ที่มาข้อมูล : Science Alert
ที่มารูปภาพ : CANVA
