ปี 2567 ไทยมีคนจน 3.43 ล้าน คนจนในไทยเพิ่มขึ้นในทุกระดับ

ปี 2567 ไทยมีคนจน 3.43 ล้าน คนจนในไทยเพิ่มขึ้นในทุกระดับ

ประเทศไทยมีคนจนเพิ่ม ครัวเรือนหรือครอบครัวที่ยากจนก็เพิ่ม ทั้งคนจนยังเพิ่มขึ้นในทุกระดับ โดยคนยากจนนั้น มีรายได้ตกวันละประมาณ 100 บาท! สะท้อนสภาพความเหลื่อมล้ำที่ยิ่งมากขึ้นไปอีก 

รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2567 ของสภาพัฒน์ ชี้ว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีคนยากจน เพิ่มขึ้นเป็น 3.43 ล้าน (3 ล้าน 4 แสน 3 หมื่น) คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.89 ของประชากร

เพิ่มจาก 2.3 ล้านคนในปีก่อน หรือเพิ่มมากกว่า 1 ล้านคน ใน 1 ปีทำให้จากที่จำนวนคนจน ซึ่งลดลงมา 4 ปีซ้อน เด้งเพิ่มกลับขึ้นมาอีก

คนจนที่ว่านี้ คือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ซึ่งตอนนี้ของไทยอยู่ที่ 3,078 บาท ต่อคน ต่อเดือน เท่ากับว่าคนที่อยู่ใต้เส้นความยากจน จะมีรายได้ประมาณ วันละ 103 บาท/คนเท่านั้น

คนจนที่เพิ่มขึ้น ยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภาคเกษตร คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 45.49 มีครัวเรือนยากจนประมาณ 1.03 ล้าน คิดเป็นร้อยละ 3.68 ของครัวเรือนทั้งหมด และยังเพิ่มขึ้นจากประมาณ 6.86 แสนครัวเรือนในปีก่อนหน้า หมายความว่าจนเพิ่มขึ้นมาถึง 3.4 แสนครัวเรือนในปีเดียวซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลียครัวเรือนยากจนตกที่ 7,938 บาท/เดือน

รายงานยังพบอีกว่า จำนวนคนจนในทุกระดับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เห็นได้ชัดว่าช่องว่างความยากจนและระดับความรุนแรงของปัญหาความยากจนเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

หากมาดูที่พื้นที่นั้น จะพบว่า คนจนมีสัดส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด คือ 34.63% รองลงมาคือภาคใต้ 27.01% ภาคเหนือ 18.62% และภาคกลาง 17.68% ขณะที่กรุงเทพฯ นั้น มีคนยากจนเพียง 2.05% เท่านั้น โดยจังหวัดอย่างแม่ฮ่องสอน และปัตตานีนั้น มีปัญหาความยากจนเรื้อรังมายาวนานกว่า 15 ปี

กลุ่มที่ไม่ได้เรียนหนังสือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 14.21 แต่ถึงอย่างนั้นก็พบว่า คนจนเข้าถึงสวัสดิการรักษาพยาบาลที่สูง ผู้สูงอายุที่ยากจนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และคนพิการที่ยากจนก็รับเบี้ยคนพิการเพิ่มยากมีนัยยะด้วย 

โดยรายงานสรุปว่า ประเทศไทยยังคงเผชิญกับสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในหลายมิติ โดยเฉพาะรายจ่าย และการศึกษา


สรุปข่าว

ปี 2567 ประเทศไทยมีคนจนเพิ่ม ครัวเรือนหรือครอบครัวที่ยากจนก็เพิ่ม ทั้งคนจนยังเพิ่มขึ้นในทุกระดับ โดยคนยากจนนั้น มีรายได้ตกวันละประมาณ 100 บาท

ประเทศไทยมีคนจนเพิ่ม ครัวเรือนหรือครอบครัวที่ยากจนก็เพิ่ม ทั้งคนจนยังเพิ่มขึ้นในทุกระดับ โดยคนยากจนนั้น มีรายได้ตกวันละประมาณ 100 บาท! สะท้อนสภาพความเหลื่อมล้ำที่ยิ่งมากขึ้นไปอีก 

รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2567 ของสภาพัฒน์ ชี้ว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีคนยากจน เพิ่มขึ้นเป็น 3.43 ล้าน (3 ล้าน 4 แสน 3 หมื่น) คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.89 ของประชากร

เพิ่มจาก 2.3 ล้านคนในปีก่อน หรือเพิ่มมากกว่า 1 ล้านคน ใน 1 ปีทำให้จากที่จำนวนคนจน ซึ่งลดลงมา 4 ปีซ้อน เด้งเพิ่มกลับขึ้นมาอีก

คนจนที่ว่านี้ คือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ซึ่งตอนนี้ของไทยอยู่ที่ 3,078 บาท ต่อคน ต่อเดือน เท่ากับว่าคนที่อยู่ใต้เส้นความยากจน จะมีรายได้ประมาณ วันละ 103 บาท/คนเท่านั้น

คนจนที่เพิ่มขึ้น ยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภาคเกษตร คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 45.49 มีครัวเรือนยากจนประมาณ 1.03 ล้าน คิดเป็นร้อยละ 3.68 ของครัวเรือนทั้งหมด และยังเพิ่มขึ้นจากประมาณ 6.86 แสนครัวเรือนในปีก่อนหน้า หมายความว่าจนเพิ่มขึ้นมาถึง 3.4 แสนครัวเรือนในปีเดียวซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลียครัวเรือนยากจนตกที่ 7,938 บาท/เดือน

รายงานยังพบอีกว่า จำนวนคนจนในทุกระดับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เห็นได้ชัดว่าช่องว่างความยากจนและระดับความรุนแรงของปัญหาความยากจนเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

หากมาดูที่พื้นที่นั้น จะพบว่า คนจนมีสัดส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด คือ 34.63% รองลงมาคือภาคใต้ 27.01% ภาคเหนือ 18.62% และภาคกลาง 17.68% ขณะที่กรุงเทพฯ นั้น มีคนยากจนเพียง 2.05% เท่านั้น โดยจังหวัดอย่างแม่ฮ่องสอน และปัตตานีนั้น มีปัญหาความยากจนเรื้อรังมายาวนานกว่า 15 ปี

กลุ่มที่ไม่ได้เรียนหนังสือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 14.21 แต่ถึงอย่างนั้นก็พบว่า คนจนเข้าถึงสวัสดิการรักษาพยาบาลที่สูง ผู้สูงอายุที่ยากจนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และคนพิการที่ยากจนก็รับเบี้ยคนพิการเพิ่มยากมีนัยยะด้วย 

โดยรายงานสรุปว่า ประเทศไทยยังคงเผชิญกับสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในหลายมิติ โดยเฉพาะรายจ่าย และการศึกษา