
สรุปข่าว
สำหรับภาคการเกษตร ซึ่งเป็นกลไกหลักของเศรษฐกิจไทย เทคโนโลยีโดรนจากจีนได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพ่นสารเคมี ตรวจวิเคราะห์สภาพพืชผล และประเมินผลผลิตล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุนแรงงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการในพื้นที่เกษตรขนาดใหญ่ได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกหนึ่งมิติที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือด้านความมั่นคง โดยจีนได้พัฒนาโดรนสำหรับภารกิจทางยุทธศาสตร์ เช่น การเฝ้าระวังชายแดน การลาดตระเวนทางอากาศ และการส่งสัญญาณภาพจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูลกลางและระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายอัจฉริยะ ซึ่งขณะนี้ได้ถูกรวมไว้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ความมั่นคงระดับชาติของจีนแล้ว
การดูงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าหากประเทศไทยต้องการก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก จำเป็นต้องเร่งปรับตัวในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเกษตรกรและกำลังพลที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งพื้นที่นำร่องสำหรับทดสอบเทคโนโลยี รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมภายในประเทศ
จีนได้ยกระดับตัวเองเป็นศูนย์กลางของการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีโดรนระดับโลกแล้ว ขณะที่ไทยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น การสร้างความร่วมมือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการเปิดพื้นที่เรียนรู้จากต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเกษตรและระบบความมั่นคงของไทยสู่ยุคใหม่อย่างยั่งยืน