เลขาสมช. ย้ำ 3 พ.ค.ขายเหล้าซื้อกลับบ้าน ส่วนฉีดโบท็อกซ์ยังห้ามเปิด

วันนี้ (2 พ.ค.63) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ เลขา สมช. กล่าวถึงการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตลอดเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตรการที่เคร่งครัดและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ จึงได้มีมาตรการผ่อนปรน คลายล็อกมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือนพ.ค. และจะต้องมีการประเมินในแต่ละระยะ โดยทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคน  ซึ่งตามประกาศผ่อนปรนให้มีการเปิดร้านค้า ร้านอาหารในโรงแรม สนามบิน โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ หาบเร่แผงลอย เพื่อให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งต้องยังการรักษาระยะห่าง ตรวจวัดอุณภูมิ ทำความสะอาดพื้นที่ตามมาตรฐาน

ส่วน "ห้างสรรพสินค้า" ยังคงเปิดในส่วนของจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต เช่น ร้านขายยา ร้านโทรศัพท์มือถือ ธนาคาร 

ขณะที่ "ร้านเสริมสวย" สามารถเปิดได้ แต่ต้องมีการกำชับให้เป็นไปตามมาตาการที่วางไว้ โดยอนุญาตให้ สระ ไดร์ ตัดได้เท่านั้น  บริการอื่นห้ามเด็ดขาด เช่นโกรกสีผม เพราะใช้เวลานาน เสี่ยงติดเชื้อ และผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการต้องใส่หน้ากากอนามัย 

ส่วนการผ่อนคลายให้การออกกำลังกายเดิน วิ่งกลางแจ้งนั้น เป็นมาตรการเชิงป้องกันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง  เป็นการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง ถ่ายเทอากาศได้สะดวก การติดเชื้อจะเกิดน้อย ส่วนรำไทเก๊กก็สามารถทำได้ แต่ขอให้รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย หรือจำกัดเวลาการทำกิจกรรม

ส่วน "โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม" เปิดได้ตามปกติ แต่ต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการให้บริการ พร้อมย้ำว่าสถาบันเสริมความงาม การฉีดโบท็อก  ยังไม่อนุญาตให้สามารถเปิดได้ แต่อาจไปพิจารณาในระยะ 2 ระยะ 3 ต่อไปได้ ถ้าสถานการณ์ 14 วันจากนี้ดีขึ้น 

ขณะที่ในระยะต่อไป ศบค.จะมีการประเมินหลัง 14 วัน ว่า ประชาชนให้ความร่วมมือดี ตัวเลขต่างๆ น้อยลงหรือไม่ หากไปในทิศทางที่ดี ก็จะมีการพิจารณาเปิดผ่อนคลายระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ต่อไป

ส่วนกรณีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่ 3 พ.ค. นั้น ร้านที่่มีใบอนุญาตให้ขายสุรา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถเปิดขายได้ แต่ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่ากทม. หากเห็นว่าในพื้นที่ของตนมีการละเมิด หรือ มีการแพร่เชื้อเนื่องจากกิจกรรมขายสุรา ก็สามารถสั่งปิดภายหลังได้  ซึ่งวัตถุประสงค์ ต้องให้ซื้อกลับบ้าน แต่ก็อย่าให้ไปถึงขั้นการมั่วสุมภายในบ้าน พร้อมขอความร่วมมือทุกท่าน ห้ามดื่มสุราที่ร้าน และกลับมาที่บ้านอย่างพอสมควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบได้ 

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand