แอมะซอนทำฟาร์มสาหร่ายสู้โลกร้อน ใช้ที่ว่างระหว่างกังหันลมให้เป็นประโยชน์

การปลูกต้นไม้เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะดักจับคาร์บอนเพื่อต่อสู้กับปัญหาภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศแปรปรวนได้ และโลกก็ประกอบไปด้วยพื้นที่ทะเลเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การสร้างฟาร์มสาหร่ายทะเลตามพื้นที่ว่างระหว่างกังหันลมแต่ละต้นในฟาร์มกังหันลมอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับสถานการณ์โลกในปัจจุบันก็เป็นได้

แนวคิดนี้เป็นของนอร์ท ซี ฟาร์มเมอร์ส (North Sea Farmers: NSF) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ต้องการสร้างฟาร์มสาหร่ายทะเลให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ว่างระหว่างกังหันลมนอกชายฝั่ง (Off-Shore Wind Turbine) แต่ละต้นในเขตฟาร์มกังหันลมทั่วโลกภายในปี 2040 ให้ได้พื้นที่จำนวน 1 ล้านเฮกตาร์ (Hectare) หรือ 6.25 ล้านไร่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดีในการดักจับคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม

แนวคิดดังกล่าวทำให้บริษัท แอมะซอน (Amazon) บริษัทด้านอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และเทคโนโลยีชื่อดังของโลก ให้ความสนใจและร่วมลงทุนมูลค่า 2.16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 74.6 ล้านบาท เพื่อสร้างนอร์ท ซี ฟาร์ม 1 (North Sea Farm 1) ฟาร์มสาหร่ายทะเลแห่งแรกตามแนวคิดของโครงการ 

นอร์ท ซี ฟาร์ม 1 (North Sea Farm 1) จะเป็นฟาร์มขนาด 10 เฮกตาร์ หรือ 62.5 ไร่ ซึ่งจะผลิตสาหร่ายทะเลปีละ 6 ตัน ซึ่งเชื่อว่ามีศักยภาพในการดักจับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศได้จากการที่สาหร่ายต้องใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในการดำรงชีวิตผ่านรูปแบบของคาร์บอนที่ปะปนอยู่ในน้ำทะเล (แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขที่เคลมไว้) ทางบริเวณทะเลเหนือของยุโรป แต่ทางแอมะซอน (Amazon) ไม่ได้ระบุไว้ว่าจะนำสาหร่ายทะเลที่ผลิตได้ไปทำผลิตภัณฑ์ใด แม้ว่าสาหร่ายทะเลจะสามารถแปลงไปเป็นสินค้าหลายรูปแบบ เช่น อาหาร, เชื้อเพลิงชีวภาพ หรือส่วนประกอบสินค้าความงาม เป็นต้น

ที่มาข้อมูล Interesting Engineering

ที่มารูปภาพ Amazon