
สรุปข่าว
เพื่อรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยในประเทศฟิลิปปินส์ จึงพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งออกแบบมาให้สามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง ทั้งปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
ภาพจาก irriผลงานนี้เป็นของทีมนักวิจัย จากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ ซึ่งตอนนี้กำลังทดลองปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ ในนาข้าวที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งทีมวิจัยกล่าวว่ามันสามารถอยู่รอดเมื่อจมอยู่ใต้น้ำได้นานกว่าข้าวทั่วไปถึงสองสัปดาห์
และนอกจากการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ทนน้ำท่วมแล้ว ทีมงานยังมุ่งพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ทนต่อความแล้ง และพันธุ์ข้าวที่ทนต่อความเค็มขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยใช้วิธีการผสมพันธุ์ขั้นสูง และการคัดเลือกพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายทางพันธุกรรม ด้วยกระบวนการเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ก็จะสามารถตรวจหายีนของลักษณะที่พึงประสงค์ได้จากเมล็ดข้าวและรวมเข้ากับพันธุ์ข้าวอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลดีขึ้น
ภาพจาก irriโดยตอนนี้ พันธุ์ข้าวทนแล้ง ที่มียีนที่ทำให้ต้นข้าวเติบโตต่อไปโดยใช้น้ำเพียงเล็กน้อย และอยู่รอดได้นานกว่าพืชปกติหลายสัปดาห์ ได้นำไปปลูกแล้วในประเทศอินเดีย เนปาล และฟิลิปปินส์
ปัจจุบัน มีสถิติว่าประเทศผู้ผลิตข้าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักโดนผลกระทบจากพายุโซนร้อนเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทางการเกษตรเป็นอย่างมาก อย่างในประเทศฟิลิปปินส์เอง มีรายงานว่าในปี 2022 ก็มีมูลค่าความเสียหายทางการเกษตรที่เกิดจากน้ำท่วมถึง 670,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23 ล้านบาท และในจำนวนนั้นคิดเป็นค่าความเสียหายของการปลูกข้าวไปแล้วกว่า 450,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 15 ล้านบาท
ทางทีมวิจัยจึงหวังว่าการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการปลูกข้าว เพื่อให้มีต้นทุนการผลิตลดลง อันจะนำไปสู่รายได้ที่มากขึ้น และอาจจะช่วยยกระดับชีวิตในด้านอื่น ๆ อีกด้วย
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
- วิกฤตอากาศดึงเศรษฐกิจทรุด UN ชี้ต้องลดการปล่อยคาร์บอน เศรษฐกิจโลกถึงจะฟื้น!
- “กรีซ” เข้าสู่ฤดูไฟป่า ปีนี้อาจรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เพราะภาวะโลกร้อน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand