
สถาบันมหาสมุทรวิทยาทะเลจีนใต้ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน เปิดเผยว่าพวกเขาเตรียมสร้าง "ศูนย์วิจัยระบบนิเวศน้ำซึมเย็น (Cold Seep Ecosystem Research Facility)" ให้เสร็จสิ้นในเวลา 5 ปี
โครงการนี้จะเกิดขึ้นที่เมืองกว่างโจว โดยจะเป็นห้องปฏิบัติการใต้ทะเลลึกแบบประจำ ที่ตั้งอยู่ใต้ทะเลลึก 2,000 เมตร ประกอบไปด้วย ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ห้องควบคุมการนำทางและปฏิบัติการ ห้องตรวจจับอเนกประสงค์ ห้องพักอาศัย และห้องไฟฟ้าสำรอง รองรับผู้โดยสารสูงสุด 6 คนที่สามารถอาศัยอยู่ได้นานถึง 30 วัน
หลี่ เฉาหลุน (Li Chaolun) ผู้อำนวยการสถาบันมหาสมุทรวิทยาทะเลจีนใต้และผู้นำโครงการกล่าวว่า โครงการนี้ได้นำเอาเทคโนโลยีจากหลายส่วนมาใช้ คือภารกิจบนอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุม ยานดำน้ำลึก รวมถึงระบบการช่วยชีวิตจากปฏิบัติการขุดแร่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในสถานีใต้ทะเลแห่งนี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก
สรุปข่าว
สถาบันมหาสมุทรวิทยาทะเลจีนใต้ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน เปิดเผยว่าพวกเขาเตรียมสร้าง "ศูนย์วิจัยระบบนิเวศน้ำซึมเย็น (Cold Seep Ecosystem Research Facility)" ให้เสร็จสิ้นในเวลา 5 ปี
โครงการนี้จะเกิดขึ้นที่เมืองกว่างโจว โดยจะเป็นห้องปฏิบัติการใต้ทะเลลึกแบบประจำ ที่ตั้งอยู่ใต้ทะเลลึก 2,000 เมตร ประกอบไปด้วย ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ห้องควบคุมการนำทางและปฏิบัติการ ห้องตรวจจับอเนกประสงค์ ห้องพักอาศัย และห้องไฟฟ้าสำรอง รองรับผู้โดยสารสูงสุด 6 คนที่สามารถอาศัยอยู่ได้นานถึง 30 วัน
หลี่ เฉาหลุน (Li Chaolun) ผู้อำนวยการสถาบันมหาสมุทรวิทยาทะเลจีนใต้และผู้นำโครงการกล่าวว่า โครงการนี้ได้นำเอาเทคโนโลยีจากหลายส่วนมาใช้ คือภารกิจบนอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุม ยานดำน้ำลึก รวมถึงระบบการช่วยชีวิตจากปฏิบัติการขุดแร่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในสถานีใต้ทะเลแห่งนี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก
สำหรับเป้าหมายของโครงการนี้คือการสำรวจระบบนิเวศน้ำซึมเย็น (Cold Seep Ecosystem) ซึ่งหมายถึงบริเวณใต้ท้องทะเลซึ่งมีไฮโดรเจนซัลไฟด์ มีเทน และของเหลวที่มีไฮโดรคาร์บอนรั่วซึมออกมาจากพื้นทะเล อันเนื่องมาจากกิจกรรมทางธรณีวิทยาหรือการเปลี่ยนแปลงของความดัน
แหล่งซึมเหล่านี้มีระบบนิเวศเฉพาะตัวที่เจริญเติบโตจากการสังเคราะห์ทางเคมี ซึ่งเป็นกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตใช้ประโยชน์จากพลังงานเคมีจากของเหลวที่ซึมออกมาจากก้นทะเล แทนที่จะพึ่งพาแสงแดดเหมือนสิ่งมีชีวิตบนบก
นอกจากจะทำให้มนุษย์ค้นพบความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลมากขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เราเข้าใจระบบนิเวศน้ำซึมเย็นเชิงลึก เนื่องจากระบบนิเวศน้ำซึมเย็นอาจมีบทบาทสำคัญในวงจรคาร์บอน และอาจกักเก็บทรัพยากรทางชีวภาพที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็เป็นได้
ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการนี้ มุ่งเน้นส่งเสริมการวิจัยพื้นฐาน การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ บนโลก เหมือนอย่างที่ หลี่ เฉาหลุน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการแปลผลการค้นพบให้กลายเป็นความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม”
หลี่ เฉาหลุนยังกล่าวเสริมอีกว่า “แหล่งน้ำซึมเย็น ถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจวงจรคาร์บอนของโลก และสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมแบบสุดโต่ง รวมถึงการสกัดทรัพยากรอย่างปลอดภัย เช่น ไฮเดรตมีเทน สิ่งอำนวยความสะดวกนี้จะทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ใต้ท้องทะเลลึกและนวัตกรรมเศรษฐกิจมหาสมุทรสีเขียว”
โครงการนี้คือเป็นอีกหนึ่งความทะเยอทะยาน ที่จะหนุนสถานะของจีนในฐานะ “มหาอำนาจทางทะเล” และสนับสนุนเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีความท้าทายอีกมากรออยู่ข้างหน้า ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป
- จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง
- "คนจีน" ไม่กล้าใช้จ่าย 80 % หันออมเงิน แม้ดอกเบี้ยต่ำ
- OpenThaiGPT ก้าวกระโดดแห่ง AI ภาษาไทย ที่พัฒนาโดยคนไทย เพื่อคนไทย
- Hermeus ทดสอบเครื่องบินไฮเปอร์โซนิก Quarterhorse Mk 1 สำเร็จ เดินหน้าพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่สิ้นปีนี้
- เมื่อจีนใช้มังกรน้อย พลิกฟื้นชนบท (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
- ทรัมป์เตรียมผลักดันพลังงานนิวเคลียร์ รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ
