วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Techcrunch สื่อชั้นนำด้านเทคโนโลยีเปิดเผยรายละเอียดความคืบหน้าคดีบริษัท Meta ถูกตั้งข้อหาผูกขาดว่า ในระหว่างการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดที่สหรัฐฯ โดยคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) ดำเนินการพิจารณาคดีกับบริษัท เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) มีการเปิดเผยเอกสารภายในที่แสดงให้เห็นถึงความวิตกของผู้บริหารระดับสูง รวมถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของอินสตาแกรม (Instagram) ในช่วงต้นทศวรรษ 2010 โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า การเข้าซื้อ Instagram และ WhatsApp เป็นความพยายามของ Meta ในการขจัดภัยคุกคามทางการแข่งขัน
สรุปข่าว
เอกสารภายในที่ถูกเปิดเผย
เอกสารสะท้อนแนวคิดและเจตนารมณ์ของ Facebook ที่ต้องการ “ซื้อเวลา” ด้วยการซื้อคู่แข่ง
โดยในการสืบพยานของคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) ได้มีการเปิดเผยอีเมลและข้อความภายในจากผู้บริหารบริษัท Facebook ที่แสดงความกังวลอย่างชัดเจนต่ออัตราการเติบโตของ Instagram และแนวโน้มที่แอปแชร์ภาพถ่ายนี้จะกลายเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อธุรกิจของตน
ตัวอย่างเช่น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เขียนอีเมลฉบับหนึ่งว่า
“Instagram เติบโตอย่างรวดเร็วมาก มีผู้ใช้ถึง 2 ล้านคนในเวลาเพียง 4 เดือน และมีการอัปโหลดภาพ 30,000 รูปต่อวัน”
ต่อมาในเดือนกันยายน 2011 เขาเตือนว่า
“ถ้า Instagram ได้รับความนิยมมากขึ้น หรือถูก Google ซื้อกิจการไป พวกเขาอาจแข่งขันกับเราได้โดยตรง และด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกไม่กี่เดือน เราจะยิ่งหาทางรับมือได้ยากขึ้น”
ทางเลือกของ Facebook คือ การซื้อกิจการ หรือควบคุมทิศทางของคู่แข่ง
Facebook ไม่เพียงแต่พิจารณาเข้าซื้อกิจการ Instagram เท่านั้น แต่ยังหารือถึงกลยุทธ์ที่อาจจำกัดการเติบโตของคู่แข่ง เช่น การคัดลอกฟีเจอร์สำคัญ หรือแม้กระทั่งซื้อแอปแล้วหยุดการพัฒนาเพื่อไม่ให้กระทบกับผลิตภัณฑ์หลักของตนเอง
ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเสนอว่า
“ถ้าเราซื้อ Instagram เราจะยังคงปล่อยให้แอปของพวกเขาใช้งานได้ต่อไป แต่ไม่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แล้วมุ่งพัฒนาฟีเจอร์กล้องในแอปของเราเองแทน เพื่อให้ไม่มีใครเกลียดเรา และไม่เปิดช่องให้คู่แข่งรายอื่น”
นอกจากนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กยังกล่าวว่า
“สิ่งที่เราซื้อจริง ๆ ก็คือเวลา แม้จะมีคู่แข่งรายใหม่ การซื้อ Instagram, Path, Foursquare ฯลฯ ตอนนี้จะให้เวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นในการผสานกลยุทธ์ ก่อนที่ใครจะไล่ตามพวกเขาทัน”
ข้อกล่าวหาการผูกขาดและผลที่อาจเกิดขึ้น
คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) ยืนยันว่าเอกสารเหล่านี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาของบริษัท Meta ที่จะครอบงำตลาดโซเชียลมีเดียและจำกัดการแข่งขัน หากศาลเห็นชอบกับคำร้องของรัฐบาล Meta อาจถูกบังคับให้แยกกิจการ Instagram และ WhatsApp ออกไปจากบริษัทแม่ ซึ่งจะถือเป็นการรื้อโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
สำหรับกำหนดการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดระหว่างคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) กับบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2025 ณ ศาลแขวงสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คาดว่าการพิจารณาคดีนี้จะใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 8 สัปดาห์ และอาจสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2025
ขณะนี้การพิจารณาคดียังคงดำเนินต่อไป และนับเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญในการตรวจสอบการใช้อำนาจตลาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในศตวรรษที่ 21
