สหรัฐฯ ทำ “รถไร้คนขับ” ช่วยทหารแนวหน้า จะปล่อยโดรน ติดอาวุธก็ทำได้

สเปกรถไร้คนขับทางทหารใหม่จากอเมริกา

ULTRA เป็นยานยนต์แบบเปิดโล่งไร้หลังคา ใช้ล้อยาง 4 ล้อ น้ำหนักตัวรถรวมอยู่ที่ 1,587 กิโลกรัม ใช้เครื่องยนต์ 1,000 ซีซี 114 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 160 กิโลเมตร 

โดยตัวรถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางการทหารมาตรฐานเนโท (NATO) ที่จ่ายไฟด้วยแรงดัน 24 โวลต์ (V) กำลังไฟรวม 1 กิโลวัตต์ (KW) น้ำหนักอุปกรณ์สูงสุดไม่เกิน 454 กิโลกรัม 

ULTRA เป็นยานพานะไร้คนขับ อาศัยการควบคุมระยะไกลด้วยผู้สั่งการเพียงคนเดียว เชื่อมต่อและสั่งการได้ผ่านสัญญาณเครือข่ายเฉพาะกิจ หรือโลคอล เมช เน็ตเวิร์ก (Local Mesh Network) รวมถึงระบบ 5G และสัญญาณดาวเทียม 

แต่ถ้าหากระบบนำทางแบบจีพีเอส (GPS) ไม่สามารถใช้การได้เนื่องจากโดนตัดหรือรบกวนสัญญาณ ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ของตัวรถ ULTRA ก็สามารถขับเคลื่อนตัวรถได้แบบอัตโนมัติไปยังจุดหมายต่อไปได้เช่นกัน

การใช้งานรถไร้คนขับทางทหารใหม่จากอเมริกา

โดย AI ของตัวรถนั้นได้รับการพัฒนาร่วมกับหน่วยวิจัยทางการทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือดาร์ปา (DARPA) ซึ่งเคลมว่าสามารถใช้นำทางและขับเคลื่อนได้ในทุกสภาพภูมิประเทศ หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภารกิจที่ ULTRA รองรับนั้นมีหลากหลายประเภท เนื่องจากใช้รางติดอุปกรณ์มาตรฐานแบบแอลแทร็ก (L-track) เช่น ชุดปล่อยโดรนลาดตระเวน หรือโดรนโจมตี ภารกิจขนส่งเสบียงหรือเครื่องกระสุนให้ทหารแนวหน้าผ่านกล่องเก็บภายในตัว หรือภารกิจต่อต้านอากาศยานด้วยปืนไฟฟ้า รวมไปถึงภารกิจกู้ภัยในพื้นที่เสี่ยง และภารกิจอื่น ๆ ที่ผู้ใช้งานต้องการ

โดยทางบริษัท Overland AI ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตยานพาหนะภายใต้โครงการพัฒนายานยนต์หุ่นยนต์ยุทธวิธี หรือ RCV (Robotic Combat Vehicle) ให้กับกองทัพบก นาวิกโยธิน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าโครงการ 18.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 624 ล้านบาท